svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"เสี่ยหนู"ไฟเขียวเด็กพรรคตัดสินใจร่วมองค์ประชุมศึกอภิปรายทั่วไป

13 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จับตา! ศึกอภิปรายทั่วไป หลัง "อนุทิน" ไฟเขียวให้เอกสิทธิ์ลูกพรรคภูมิใจไทย ตัดสินใจร่วมเป็นองค์ประชุม ม.152 หรือไม่ ย้ำ ส.ว. มีอำนาจโหวตเลือกนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ แต่เสียงใหญ่กว่าคือประชาชน

13 กุมภาพันธ์ 256 "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย "นายสรอรรถ กลิ่นประทุม" ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรค "นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์" หัวหน้าทีม กทม. และ "น.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา" ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตคลองเตย-วัฒนา ลงพื้นที่พบปะประชาชน โดยจุดแรกมาที่ คลินิกเวชกรรมอารีรักษ์ คลองเตย โดยมีประชาชนรอให้การต้อนรับ

 

อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

 

โดย นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 ว่า รัฐมนตรีของพรรคต้องพร้อม และครั้งนี้ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เป็นการให้คำแนะนำ แต่ไม่ว่าจะมารูปแบบไหน ถ้าอภิปรายสร้างสรรค์ ไม่กล่าวร้ายป้ายสี รัฐมนตรีก็มีความพร้อม และรอชี้แจงในสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง แต่ถ้าใส่ร้ายป้ายสี ไม่มีข้อเท็จจริง ก็จะพูดความจริงให้ประชาชนฟัง

 

 

ส่วนแนวคิดการทำให้องค์ประชุมล่มนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันอภิปรายแล้ว อย่าไปคิดเลย แต่อย่างน้อยรัฐมนตรีก็ต้องไปฟัง หรือถ้าติดราชการไม่ได้ไปฟัง ก็ต้องมีคนคอยมอนิเตอร์ ซึ่งในส่วนของรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยจะเข้าร่วมประชุม แต่ในส่วนของ ส.ส. พรรค ถือเป็นเอกสิทธิ์ เพราะไม่มีการโหวตลงมติ อีกทั้ง เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะเสนอแนะข้อคิดเห็น ส่วนใครจะใช้สิทธิอภิปรายก็ไม่ได้กังวล

 

ส่วนกรณีที่ "นายวันชัย สอนศิริ" สมาชิกวุฒิสภา ออกมาระบุว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นอำนาจหน้าที่ของส.ว. 250 คนนั้น ถือเป็นอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ แต่ไม่มีอำนาจไหนใหญ่กว่าอำนาจของประชาชน ซึ่งเรื่องเหล่านี้อย่าเพิ่งไปคาดการณ์ ผลสรุปก็คือหลังเลือกตั้ง

เมื่อถามต่อว่า เสียงของ ส.ว.จะทำให้พรรคการเมืองเสียเปรียบหรือไม่ นายอนุทิน ย้ำว่า "ก็บอกไปแล้วไง ไม่มีใครใหญ่กว่าประชาชนหรอกครับ ผลของการเลือกตั้งจะบอกอย่างชัดเจน ว่าประชาชนต้องการอะไร ไม่มีใครฝืนได้ และพรรคภูมิใจไทยก็ไม่กล้าฝืน"
 

logoline