5 เมษายน 2567 เมื่อเวลา 09.30 น. นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 4 พร้อมเพื่อนรวม 3 คน เดินทางมาที่เทศบาลตำบลบางปู จ.สมุทรปราการ สถานที่ตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการประจำปี 2567 (เกณฑ์ทหาร) จากนั้นได้อ่านแถลงการณ์อารยะขัดขืนต่อต้านการเกณฑ์ทหาร โดยระบุว่า
ข้าพเจ้าประกาศจุดยืนตั้งแต่หลังรัฐประหาร 2557 ว่า เมื่อถึงเวลาต้องรับการตรวจเลือกเกณฑ์ทหาร ตนจะไม่เข้าร่วม ด้วยเหตุผลว่า การบังคับพลเมืองที่ไม่เต็มใจรับราชการทหารนั้น ขัดกับหลักสิทธิมนุษยชน ความเชื่อทางศีลธรรม ทั้งยังล้าสมัย ไม่มีประสิทธิภาพ และมีส่วนทำให้สังคมไทยไม่เป็นประชาธิปไตย
บัดนี้เวลาผ่านไป 10 ปีแล้ว ข้าพเจ้าขอยืนยันจุดยืนเดิมของตน การเกณฑ์ทหารไม่ได้นำมาซึ่งความเสมอภาคของพลเมือง แต่เป็นระบบที่เหลื่อมล้ำต่ำสูง หลายมาตรฐาน ข้าพเจ้าเข้าใจและเห็นใจคนจำนวนมากที่ไม่อยากเกณฑ์ทหาร จึงเลี่ยงไปเรียนรักษาดินแดน พยายามเข้ารับราชการ เลือกบวชเรียนเพื่อให้ได้นักธรรม หรืออาศัยเกณฑ์อื่นๆ ในการหลีกหนี อย่างไรก็ตาม มีคนอีกมากไม่อาจเลี่ยงพ้น และต้องเข้ารับราชการเกณฑ์ทหารโดยไม่เต็มใจ
ประชาชนชาวไทยทุกคนควรมีสิทธิเสรีภาพอย่างเท่าเทียมกันที่จะเลือกว่าตนจะเข้ารับราชการทหารหรือไม่ โดยไม่ต้องถูกบังคับ ไม่ควรต้องกล้ำกลืนฝืนใจหรือต้องหาทางหลบเลี่ยง อันจะไม่เป็นผลดีแก่พลเมือง หรือประเทศชาติ
ข้าพเจ้าสามารถหาวิธีหลีกเลี่ยงได้ด้วยประการทั้งปวงดังเช่นที่คนอื่นๆ ทำ ซึ่งข้าพเจ้าก็เคารพในการตัดสินใจเหล่านั้น แต่ข้าพเจ้าคิดว่าการปฏิเสธด้วยการแสดงออกอย่างเป็นสาธารณะ ว่าจะไม่ร่วมการเกณฑ์ทหารนั้นเป็นเผชิญกับปัญหาตรงๆ ซึ่งอาจจะจำเป็นต้องทำเพื่อสิทธิเสรีภาพของพลเมืองที่ดีขึ้น และเพื่อให้กองทัพที่เคารพสิทธิมนุษยชนอย่างเหมาะสมกับยุคสมัย
ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงขอประกาศกระทำ "อารยะขัดขืน" ไม่เข้าร่วมเกณฑ์ทหาร ข้าพเจ้าทราบดีถึงผลทางกฎหมายที่จะตามมา และหวั่นใจอยู่ไม่น้อย แต่หากผลที่ข้าพเจ้าต้องรับ จะแลกมาด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเพื่อนพลเมืองชาวไทยคนอื่นๆ ข้าพเจ้าก็เต็มใจและพร้อมจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป
ในวันนี้ ข้าพเจ้ามาแสดงตน ณ ที่รับการตรวจเลือกนี้ เพื่อยืนยันจุดยืนของตนตลอดสิบปี และเพื่อแสดงออกอย่างชัดเจนว่า ข้าพเจ้ามิได้หลบเลี่ยง มิได้หลบหนี และไม่เคยคิดจะหลบหนีไปไหน
เปิดขั้นตอนดำเนินคดี "เนติวิทย์" หลังแสดงอารยะขัดขืน ไม่รับการตรวจเลือกทหารกองประจำการ
รายงานข่าวจากกองทัพบก ระบุว่า เรื่องนี้เป็นขั้นตอนตามกฎหมายปกติ เมื่อบุคคลไม่รับการตรวจเลือก ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก็จะแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษตามขั้นตอนกระบวนการ ในการพิจารณาผู้ที่ไม่มาตรวจเลือกทหารฯ ทางกรรมการตรวจเลือก จะต้องมีการประชุมหลังจากเสร็จสิ้นการตรวจเลือกแล้ว ในช่วงเดือนพฤษภาคม ว่ามีคนที่ไม่มาตรวจเลือกจำนวนเท่าใด ใครที่ไม่ได้เข้ารับตรวจเลือก และเหตุมีผลอย่างไร ที่ไม่มาตรวจเลือก
ส่วนของนายเนติวิทย์ คงไม่มีเหตุผลในการที่จะไม่ถูกดำเนินคดี เพราะไม่สามารถบอกเหตุผลที่ไม่เข้ารับการตรวจเลือกได้ เนื่องจากภาพข่าวที่ออกมาเห็นชัดว่า ไม่เข้ารับการตรวจเลือกด้วยเหตุผลในการอารยะขัดขืน ซึ่งไม่สามารถทำได้ โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว เรื่องก็จะไปอยู่ในชั้นศาล ศาลก็จะตัดสินลงมา ก็เป็นไปตามนั้น
ประวัติ "เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล"
เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล เกิด 10 กันยายน พ.ศ. 2539 ชื่อเล่น แฟรงก์ เป็นนักกิจกรรมนักศึกษา ผู้ประพันธ์และผู้คัดค้านโดยอ้างมโนธรรม เขาก่อตั้งสมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทยและกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ซึ่งทั้งสองกลุ่มมุ่งปฏิรูปการศึกษาไทย
การเคลื่อนไหวช่วงแรก ๆ ของเขาเป็นการมุ่งเน้นเรื่องทรงผมนักเรียน ปฏิรูปหลักสูตรการศึกษา รวมถึงวิจารณ์พิธีกรรมหน้าเสาธงในโรงเรียน และการยกเลิกเกณท์ทหาร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเคยเสนอ "รางวัลสิทธิมนุษยชน" ประเภทเด็กและเยาวชนจากบทบาทการรณรงค์เคลื่อนไหวเรื่องสิทธิมนุษยชนในโรงเรียนให้เขา แต่เขาปฏิเสธ
เมื่อปี 2557 เนติวิทย์ อายุ 18 ปี ได้เริ่มประกาศคัดค้านการบังคับเกณฑ์ทหาร ต่อมาปี 2559 เนติวิทย์ เข้าเรียนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่นั้นได้ยื่นขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหารทุกปี พร้อมแสดงสัญลักษณ์ไม่ยอมรับการบังคับเกณฑ์ทหาร ยกเว้นปี 2566 ได้รับการผ่อนผันเนื่องจากบวชเป็นพระ ศึกษาพระธรรมคำสอนและสอบเปรียญธรรม
เนติวิทย์ กำลังจะเรียนจบในเดือนพฤษภาคม 2567 รวมเวลาในรั้วจุฬาฯ 8 ปีเต็ม เนื่องจากต้องการใช้เวลาเต็มที่ในมหาวิทยาลัย