ในความเป็นจริงทุกจังหวัดบางพื้นที่ล้วนมี "กลุ่มตระกูลการเมือง" ทำงานการเมืองมายาวนาน สืบต่อกันมาตั้งแต่ รุ่นปู่ รุ่นย่า รุ่นพ่อ รุ่นแม่ กระทั่งมาถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน คนในตระกูลกระจายไปทำงานการเมืองท้องถิ่น ขยายฐานเสียงสู่การเมืองระดับชาติ
คู่แข่งของ "บ้านใหญ่" เหล่านี้ เป็นบรรดา "บ้านใหม่" หรือ "บ้านรอง - ตระกูลรอง" ที่เริ่มแรงขึ้นมา กลายเป็นคู่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด แพ้บ้าง ชนะบ้าง ส่วนใหญ่ "บ้านใหญ่" จะประคองตัวรอดมาได้
กลศึก "บ้านใหญ่" และ "บ้านใหม่" ทำงานการเมืองลักษณะรูปแบบเดียวกัน ย่อมปฎิเสธไม่พ้น "บ้านใหญ่ บ้านใหม่ บ้านรอง ตระกูลรอง" ล้วนมีอิทธิพลบารมีระดับท้องถิ่นใช้ระบบหัวคะแนน ที่จัดตั้งแข็งแกร่ง
อดีตความพ่ายแพ้ของ "บ้านใหญ่" หลายๆ บ้านเมื่อปี 62 แพ้ในแบบที่บางบ้านถึงกับตั้งคำถาม "แพ้ใคร" หรือ "คนชนะเป็นใคร" เพราะไม่เคยรู้จักคู่แข่ง ไม่เคยอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ รู้แต่เพียงพวกเขาอยู่ "อนาคตใหม่" ปัจจุบันก้าวไกล
พลิกย้อนไปดูหนึ่งใน "บ้านใหญ่" ที่เจอปรากฏการณ์เช่นนี้ "บ้านใหญ่สะสมทรัพย์" แห่งเมืองพระปฐมเจดีย์ หรือ "นครปฐม"
"เนชั่นทีวี" ทีม "ผ่าสมรภูมิเลือกตั้ง" เข้าพูดคุย "บ้านใหญ่นครปฐม" เผดิมชัย สะสมทรัพย์ ปัจจุบันเป็น ส.ส.เขต 5 นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา
รู้กันทั่วคุ้งดินแดนพระปฐมเจดีย์ "เผดิมชัย" พี่ใหญ่ตระกูลสะสมทรัพย์ มีน้องร่วมสายเลือด "ไชยยศ สะสมทรัพย์ - ไชยา สะสมทรัพย์ - อนุชา สะสมทรัพย์" พลิกโปรไฟล์การเมืองไม่ธรรมดา ก่อนเลือกตั้งปี 62 เป็น ส.ส.มาถึง 7 สมัย นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วย เก้าอี้เสนาบดีใหญ่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เจ้าของรหัสจับกัง 1 ถือ “เจ้าพ่อกระทรวงจับกัง” คนหนึ่งย่อมไม่ผิดนัก
ย้อนแต้มเลือกตั้งปี 62 "เผดิมชัย" พลาดท่า พ่ายให้กับ ส.ส. อนาคตใหม่ "จุมพิตา จันทรขจร" ชนิดแพ้แบบหลุดลุ่ย ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 4
ชะตาการเมืองยังเข้าข้าง หลังจากเปิดสภาไม่กี่เดือน "จุมพิตา" มีปัญหาสุขภาพ จึงตัดสินใจลาออก เปิดทางเลือกตั้งซ่อมที่นครปฐม เขต 5 ปี 62 ทำให้ "เผดิมชัย" ได้แก้มือ กระทั่งชนะการเลือกตั้งกลับเข้าสภาได้ในที่สุด
ถือเป็น "บ้านใหญ่" ระดับบิ๊กเบิ้ม คนแรกที่ได้ "แก้มือ-ล้างตา" กับบ้านใหม่ที่แรงขึ้นมา ในสนามเลือกตั้งซ่อม ขณะที่ "บ้านใหญ่" คนอื่นๆ ที่เผชิญสถานการณ์แบบเดียวกัน ยังไม่มีโอกาสคงต้องรอลุ้นในศึกเลือกตั้ง 66 ที่กำลังระเบิดขึ้น
อดีตเลือกตั้งปี 62 นครปฐม แบ่งเป็น 5 เขต แต่ในสมรภูมิเลือกตั้ง 66 เพิ่มเป็น 6 เขต มีส.ส. 6 ที่นั่ง แม้อดีต "เผดิมชัย" จะแก้มือกลับมาเป็น ส.ส.ได้ บนถนนการเมือง ยังต้องเจอศึกหนักในการเลือกตั้งปี 66 จัดแถววางตัวผู้สมัคร 6 เขตครอบคลุมพื้นที่นครปฐม
ท่ามกลางกระแสพรรคก้าวไกล ที่เรตติ้งยังแรงในบางพื้นที่ ขณะเดียวกันก็มีบรรดา “บ้านใหม่” และ “บ้านใหญ่ระดับอำเภอ” ที่กำลังส่องแสงฉายรัศมีร้อนแรงขึ้นมาอีกเช่นกัน
เมื่อเลือกตั้งปี 66 นครปฐมมี 6 เขต "เผดิมชัย" ประเมินศึกตระกูลสะสมทรัพย์ ที่เคยส่ง "จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์" ลูกชายคนโต "ไชยา สะสมทรัพย์" ลงชิงเก้าอี้นายก อบจ. ปรากฏผล ได้รับชัยชนะ กวาดไปเกือบ 3 แสนคะแนน จึงมั่นใจการเลือกตั้งใหญ่ ส.ส.ที่จะมาถึง "บ้านใหญ่สะสมทรัพย์" จะกลับมาทวงบัลลังก์ความยิ่งใหญ่หวนคืนมาได้สำเร็จ
แล้วขอนำบทเรียนความพ่ายแพ้ปี 62 ที่บ้านใหญ่ "สะสมทรัพย์" ซึ่งมีฐานที่มั่นในพื้นที่ อ.สามพราน อ.กำแพงแสน อ.นครชัยศรี ถือเป็นจุดแข็งของบ้านใหญ่ในเลือกตั้งปี 62 อ.สามพราน ที่กลับพ่ายแพ้ ได้แค่อันดับที่ 4 บาดแผลเกิดจาก "พรรคไทยรักษาชาติ" ถูกยุบ คะแนนส่วนหนึ่งจึงถูกเทไปที่ "พรรคอนาคตใหม่" หรือ "ก้าวไกล" ปัจจุบัน
ปมเหตุคนในพื้นที่นครปฐม เข้าใจผิดมอง "สะสมทรัพย์" อยู่ข้าง "ฝ่ายทหาร" ในความเป็นจริงแล้ว "บิ๊กท็อปบูท" ให้ลงสมรภูมิเลือกตั้ง "พรรคพลังประชารัฐ" เคราะห์ซ้ำกรรมซัดคะแนนที่ให้ "พรรคชาติไทยพัฒนา" โดนมรสุมหางเลขคะแนนเสียงร่วงลงกราวรูดในปี 62 นั้นเอง
หากเปรียบระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน เชื่อว่า ชาวนครปฐมจะเทใจกลับมาให้ "บ้านใหญ่สะสมทรัพย์" เพราะชาวบ้านได้เห็นผู้แทน ส.ส. ของพรรคก้าวไกล หรือ อดีตอนาคตใหม่ ทำงานในสภารวมถึงผลงานในพื้นที่ ประกอบกับกระแสทางการเมืองที่เริ่มเปลี่ยนไป
ที่ "นักเลือกตั้ง" เชี่ยวชาญการเอาชนะเลือกตั้ง โดยเฉพาะในต่างจังหวัด จะใช้เพียงกระแสอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำงานใกล้ชิดชาวบ้าน บริการ ดูแลพี่น้องประชาชน พูดง่ายๆ "เป็นที่พึ่งให้เขาได้" หรือเรียกว่า "ใจถึง พึ่งได้" ถือเป็นคุณสมบัติที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคนที่จะเป็น ส.ส.ในเขตภูธรนครปฐม
พรรคอนาคตใหม่ หรือก้าวไกลในปัจจุบัน แม้จะเคยผงาดบนสมรภูมิเลือกตั้งนครปฐม ผลงานตลอดช่วง 4 ปี ประเด็นที่ "ไกลกับชาวบ้าน" อาทิ แก้มาตรา 112 ท้าทายสถาบันหลักของชาติ แม้จะมีคนบางกลุ่มสะใจ คงไม่ใช่ชาวบ้านส่วนใหญ่ ที่ยังสาละวนอยู่กับปัญหาปากท้อง ชุดนโยบายของพรรคก้าวไกลจึงเริ่มหันมาสนใจเรื่องใกล้ตัวประชาชนมากขึ้นในช่วงใกล้เลือกตั้ง 66 คงไม่ประสบผลมากนัก
ดังนั้น "สะสมทรัพย์" ที่เคยสอบได้หนึ่งเดียวหรือสอบตก คงต้องใช้ยุทธวิธี การลงพื้นที่ต่อเนื่อง ไม่ขาด ไม่หาย ชาวบ้านต้องเห็นหน้าตลอด
"เผดิมชัย" ย้ำในการนำทัพเลือกตั้งปี 66 สวมหมวกแม่ทัพใหญ่ หัวหน้าทีมชาติไทยพัฒนาสู้ศึกเลือกตั้งนครปฐม จะส่งผู้สมัคร ส.ส. ครบทุกเขต นอกเหนือจาก "ตระกูลสะสมทรัพย์" 3 คน "เผดิมชัย- อนุชา พาณุวัฒณ์" ยังมีผู้สมัครหน้าใหม่ที่คัดสรรมาอย่างดี มีดีกรีการศึกษาสูง เป็นคนคุณภาพ ลงสู้ศึกสมรภูมิเลือกตั้ง หลังกติกาแบ่งเขต กกต. ชัดเจน พรรคชาติไทยพัฒนาจะขยับผู้สมัคร 3 ราย ที่ไม่ใช่ตระกูล "สะสมทรัพย์" แล้วเปิดตัวผู้สมัครอย่างเป็นทางการแน่นอน
ในที่สุดแล้วสมรภูมิเลือกตั้ง 66 พื้นที่นครปฐม 6 เขต ที่มีหลากหลายพรรคการเมืองลงสนามสู้ศึก "เผดิมชัย" พี่ใหญ่ตระกูลดัง นำทีม "บ้านใหญ่สะสมทรัพย์" พรรคชาติไทยพัฒนา กูรูการเมืองสมรภูมินครปฐม ชี้เปรี้ยงแนวโน้ม 3 เก้าอี้ รักษากำชัยได้แน่
ด้วยการวางหมากเกมไม่ประมาท "บ้านใหม่" พรรคก้าวไกล หรือพรรคอื่นคู่ท้าชิงที่เปลี่ยนค่ายสวมเสื้อสีใหม่ นับถอยหลังสมรภูมิเลือกตั้งนครปฐมหลังปิดหีบบัตรเลือกตั้งคงได้รู้กัน...!!!