svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

"ตระกูลบ้านใหญ่"แรง"ส่ง"หรือ"ฉุด"พรรคการเมืองชนะศึก"เลือกตั้ง 66"(คลิป)

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการ"เลือกตั้ง 66" จึงทำให้เห็นบรรยากาศความเคลื่อนไหวของแต่ละพรรค โดยเฉพาะบรรดาบุคคลสำคัญๆ ระดับ "ตระกูลบ้านใหญ่" ในพื้นที่ ซึ่งส่งผลต่อการแพ้ชนะในทางการเมือง (มีคลิป)

โดย "ดร.สติธร ธนานิธิโชติ" ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า ได้วิเคราะห์สถานการณ์การเลือกตั้ง 66 โดยหยิบยกผลการวิจัยข้อมูลสแกนตระกูลบ้านใหญ่ ที่มีผลต่อชัยชนะการเลือกตั้งในปี 54 พบว่า ความสำคัญเกี่ยวกับการสังกัดพรรคการเมือง เป็นอันดับที่ 1 ในห้วงเวลานั้น

ทั้งนี้ หากพูดง่ายๆ ถ้าลงการเมือง สังกัดพรรคเพื่อไทย ทางภาคเหนือ ภาคอีสาน ตระกูลไหน บ้านใหญ่ไหน ก็ไม่ต้องกลัว หรือลงการเมืองสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ทางภาคใต้ ตระกูลไหน ก็ไม่ต้องกลัวเช่นกัน

"ตระกูลบ้านใหญ่สู้พรรคการเมืองที่สังกัดไม่ได้ ดังนั้น ตระกูลใหญ่ ก็ยังมีความสำคัญ แต่เป็นปัจจัยลำดับรอง ประมาณอันดับที่ 3 ถ้านำไปวัดกับบุคคลที่เขามีนามสกุลดังด้วย"

ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า

อย่างไรก็ตาม หากดูผลการเลือกตั้งเมื่อปี 54 กระจายตามภูมิภาคต่างๆ ในยุคนั้น การเมืองแบ่งออกเป็น 2 ขั้ว 2 พรรค ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ แข่งกันในระดับภูมิภาค เช่น ภาคอีสานเพื่อไทย ซึ่งจะมี 10 ตระกูลการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย ขณะที่ พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังมีรอดออกมาประมาณ 3 ตระกูล

ส่วนทางภาคเหนือเพื่อไทยจะนำมา ประชาธิปัตย์ได้บ้างทางภาคเหนือตอนล่าง ส่วนเพื่อไทย มี 3 ตระกูล ประชาธิปัตย์ก็มี 3 ตระกูล สำหรับภาคกลางน่าสนใจพรรคประชาธิปัตย์ ผลการเลือกตั้งได้ค่อนข้างเยอะประมาณ 7 ตระกูล เพื่อไทย 4 ตระกูล ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เข้ามา 3 ตระกูล

"ตระกูลบ้านใหญ่"แรง"ส่ง"หรือ"ฉุด"พรรคการเมืองชนะศึก"เลือกตั้ง 66"(คลิป)

ส่วนภาคใต้ไม่ต้องพูดถึงพรรคเพื่อไทยไม่ได้ที่นั่ง เรียกว่าได้ศูนย์ตระกูล แล้วพรรคประชาธิปัตย์จะมีตระกูลใหญ่ 4 ตระกูล 

ดร.สติธร อธิบายต่อว่า นอกจากแต่ละพรรคจะแข่งกันด้วยกระแสของพรรคแล้ว จะเห็นได้ว่า ยังมีเรื่องของตระกูลบ้านใหญ่ เข้าไปช่วยหนุน ทำให้ผลการเลือกตั้งมันประสบผลสำเร็จหรือล้มเหลวแตกต่างกันไป หากไปดูผลเลือกตั้ง ส.ส.หน้าใหม่ พบว่า ตระกูลมีความสำคัญ จะเป็นปัจจัยสำคัญก่อนที่จะไปถึงประชาชนจะเลือกไม่เลือก

"เพราะความเป็นตระกูลจะแพ้ความเป็นพรรรค แต่ความเป็นตระกูลจะไปเชื่อมโยงพรรคการเมือง จุดนี้จะทำให้ประชาชนตัดสินใจเลือกได้ง่ายกว่า คนหน้าใหม่ที่ไม่มีตระกูลไปลงพรรคเล็กพรรคน้อย แทบเรียกได้ว่ารอดยาก ขณะเดียวกัน ถ้าเป็นตระกูลใหญ่ไปรวมกับพรรคใหญ่รับรองได้แลนด์สไลด์แน่นอน"

 

ชมคลิป >>> สแกนบ้านใหญ่ ตระกูลการเมือง

 




ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า


ดร.สติธร ขยายความต่อว่า วันนี้จะมาถึงทางสองแพร่งบางอย่าง เพราะว่า pattern ที่เคยสร้างและออกแบบไว้ในปี 54 คือ ความเป็นตระกูลเริ่มเป็นปัจจัยรอง แต่ในการเลือกตั้งปี 62 ผลวิจัยของผมเริ่มถูกท้าท้าย เพราะตระกูลใหญ่ที่จะเปิดไปหาพรรคการเมือง มีความหลากหลายมากขึ้น

เพราะฉะนั้น ในการเลือกตั้ง 66 หากมองดูแล้วพรรคการเมืองเริ่มไม่ใช่ปัจจัยหลัก เหมือนเลือกตั้งปี 2554 ขณะที่ความเป็นตระกูลใหญ่ เริ่มที่จะเปิดตัวเองไปสู่พรรคการเมืองที่มันใช่ แต่ปี 66 พรรคการเมืองได้ตระกูลดีๆมา หากเลี้ยงกระแสดีอาจประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งปี 66 จะเป็นการพิสูจน์ตระกูลจะกลับมาดีหรือไม่ หลังจากที่ดูแผ่วลงไปในช่วงหลังปี 50 และปี 54