svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

เปิดใจอดีตเจ้าอาวาสวัดขุมข้าว หลังถูกปลดฟ้าผ่า ปมบวชให้ "พระคาดหัว"

13 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อดีตเจ้าอาวาสวัดขุมข้าว เปิดใจ หลังถูกปลด ปมบวชให้พระคาดหัว หรือ "พระอ๋อย" อดีตเจ้าอาวาสซุกสีกา วัดดังย่านปากน้ำ เผย ไม่ได้รู้สึกอะไร ยัน ก่อนบวชให้ ตรวจสอบแล้ว ยังไม่มีใครกล่าวหา พระอ๋อย ปาราชิก ด้าน พระอ๋อย แอบสึกแล้วกลางดึก

13 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ วัดขุมข้าว อ.ปากพลี จ.นครนายก พบว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา และมีตำรวจ สภ.ปากพลี จำนวนหนึ่ง เดินทางมาที่วัด เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง "พระอ๋อย" อดีตเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ใน ต.บางหญ้าแพรก จ.สมุทรปรากร ที่เคยตกเป็นข่าวดังเมื่อปีที่แล้วหลัง "หมอปลา" พาชาวบ้านและสื่อบุกกุฏิแล้วพบว่า ได้แอบซุกสีกาไว้ และยังมีประเด็นที่น่าจดจำ คือ ใส่ที่คาดผมของผู้หญิง โดยอ้างว่าคาดผมแก้ปวดหัว 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

พระครูปทุมปริยัตยานุกิจ อดีตเจ้าอาวาสวัดขุมข้าว

จากนั้น พระครูปทุมปริยัตยานุกิจ อดีตเจ้าอาวาสวัดขุมข้าว ต.หนองแสง เขต 2 อ.ปากพลี จ.นครนายก ได้เดินทางมาถึงวัด พร้อมถุงยา โดยบอกว่าพึ่งกลับมาจากโรงพยาบาล ก่อนที่จะเชิญผู้สื่อข่าวเข้าไปในกุฏิ พร้อมเปิดใจหลังจากถูกปลดจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดขุมข้าว ว่า อาตมาไม่ได้รู้สึกอะไร ส่วนตำแหน่งเจ้าคณะตำบล อาตมาก็ได้ลาออกจากตำแหน่งมานานแล้ว ซึ่งตอนนี้ไม่มีตำแหน่งอะไร เป็นเพียงพระลูกวัดเท่านั้น โดยตอนนี้เจ้าอาวาสวัด ก็คือพระที่อยู่ในวัด มาดำรงตำแหน่งแทนอาตมา และอาตมาก็ไม่รู้สึกเสียใจที่ถูกปลดจากตำแหน่งเจ้าอาวาส 

หลังจากที่มีหนังสือจากเจ้าคณะจังหวัด สั่งปลดอาตมาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดขุมข้าวเมื่อวานนี้ ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อความรู้สึก ส่วนตำแหน่งเจ้าคณะตำบลนั้น ได้ลาออกมานานเป็นปีก่อนหน้านี้แล้ว 

สำหรับเรื่อง พระอ๋อย ที่อาตมาบวชให้นั้น เพราะไม่มีเรื่องปาราชิกมาก่อน และยังไม่มีใครกล่าวหา พระอ๋อยว่าปาราชิก ซึ่งก่อนที่อาตมาจะบวชให้พระอ๋อยนั้น อาตมาก็ได้มีการตรวจสอบแล้วว่า ไม่ได้ปาราชิกมาก่อน และไม่มีคดีทางโลก อาตมาจึงให้บวชได้ และที่พระอ๋อย มาบวชก็ใช่ว่าเขาไม่ดี 

เปิดใจอดีตเจ้าอาวาสวัดขุมข้าว หลังถูกปลดฟ้าผ่า ปมบวชให้ "พระคาดหัว"

อดีตเจ้าอาวาสวัดขุมข้าว เปิดเผยอีกว่า ส่วนเรื่องที่เป็นประเด็นก่อนหน้านี้ ที่ถูก หมอปลา บุกกุฏิ แล้วเจอผู้หญิงซ่อนตัวอยู่ในนั้น อาตมารู้แค่จากในข่าว แต่ก็ไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องนี้กับพระอ๋อย เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัว โดยส่วนตัวไม่เชื่อเรื่องที่เกิดขึ้น อาตมาคิดว่าอาจเป็นการจัดฉาก แต่ก็ไม่ฟันธง เนื่องจากถ้าพูดไปก็จะเป็นเรื่องที่ผิด ตั้งแต่ที่พระอ๋อยมาบวชที่วัดตั้งแต่เดือน มี.ค.ปีที่แล้ว พระอ๋อย ไม่มีการดูดวง หรือเสกน้ำมัน หรือเสกของพุทธาภิเษกก็ไม่มี โดยอาศัยอยู่ที่วัดแบบเงียบๆ และช่วยพัฒนาวัด

และเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.2566) พระอ๋อย ได้สึกไปแล้ว หลังจากมีคำสั่งขอร้องให้สึก โดยทางเจ้าคณะจังหวัด ได้ส่งคนมาดูทุกขั้นตอนในการสึก พร้อมถ่ายภาพ โดยไม่มีการสอบสวนอะไรเกิดขึ้น และเรื่องที่ตนถูกปลด ก็ไม่มีการสอบสวนข้อเท็จจริงเช่นกัน แต่ตนก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้แต่อย่างใด  


"อยากบอกว่า การที่จะโทษใครสักคน หรือว่าจะกล่าวหาใครสักคน ควรตรวจสอบให้แน่นอนเสียก่อน เพราะมันจะกลายเป็นตราบาปให้คนคนนึงไป และกรณีที่พระอ๋อย มาบวชนั้น เขาไม่ใช่ทำไม่ดี เขานั้นได้ทำดีช่วยหาเงินมาพัฒนาวัด เทพื้นปูนลานวัด รวมถึง งานต่างๆ ภายในวัด โดยไม่ได้ขอเงินจากทางวัด ส่วนตัวรู้จักกับพระอ๋อย ตั้งแต่สมัยเรียนระดับปริญญาตรีที่วัดพิชัยญาติการาม หรือ วัดพิชัยญาติเมื่อประมาณปี 2557-58 ที่ผ่านมา เวลาวัดมีงานก็จะส่งเงินมาร่วมทำบุญที่วัดอยู่เรื่อยๆ ซึ่งนิสัยพระอ๋อย ที่รู้จักนั้น จะเป็นคนใจบุญ ชอบช่วยเหลือคน ใครขาดเหลืออะไรก็จะช่วยหมด  ส่วนในเรื่องการมีครอบครัว พระอ๋อย เคยมีครอบครัว หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุถูกล้อรถบัสทับเท้าจนพิการ ก็มาบวชเป็นพระ โดยรอบแรกก่อนที่จะเกิดเรื่องก็บวชนานถึง 30 พรรษา และมาบวชรอบนี้อีก 1 พรรษา" อดีตเจ้าอาวาสวัดขุมข้าว กล่าว 

 

logoline