svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

นักวิชาการ-ภาคปชช.จี้ "วิษณุ" เลิกประกาศ สธ.ฉบับปลดล็อกกัญชาเสรี

17 พฤศจิกายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"เครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชน" ยื่นจม.เปิดผนึกถึง "วิษณุ เครืองาม" ขอให้ทบทวนยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับปลดกัญชาเสรี ในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ส. 22 พ.ย.นี้ ย้ำมีแต่ก่อให้เกิดผลด้านลบต่อประชาชน

17 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเครือข่ายภาคนักวิชาการและภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด ได้ทำจดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 6 เพื่อยื่นให้กับ "นายวิษณุ เครืองาม" รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อบรรจุวาระพิจารณา เรื่องการยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับปลดกัญชาเสรี และคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดกระทรวงสาธารณสุข เสนอเรื่องในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ส. ในวันที่ 22 พ.ย. นี้

 

โดยเนื้อหาจดหมายมีใจความสำคัญ 3 ข้อ

 

1.การกำหนดให้ควันและกลิ่นกัญชาเป็นเหตุรำคาญ และการกำหนดให้กัญชาเป็นพืชควบคุม ห้ามจำหน่ายกัญชาที่ไม่ได้รับอนุญาต ฉบับแรก และ ฉบับที่สอง ห้ามจำหน่ายดอกกัญชาที่ไม่ได้รับอนุญาต เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุและไม่ได้ผล เนื่องจากไม่มีใครแจ้งจับผู้ที่สูบกัญชาว่าก่อเหตุรำคาญ และ กระทรวงสาธารณสุข ไม่เคยมีการดำเนินการที่แสดงว่าต้องการบังคับใช้มาตรการห้ามจำหน่ายกัญชาที่ไม่ได้รับอนุญาต เช่น กรณีที่เป็นข่าวว่ากระทรวงสาธารณสุขดึงจดหมายด่วนถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกลับ ในวันที่ 27 ก.ค. 2565 ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่ส่งหนังสือออกไปแจ้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จับกุมผู้ที่จำหน่ายกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมาตรการเหล่านี้จึงไม่ได้ผลทั้งในด้านการออกแบบมาตรการ และการบังคับใช้มาตรการ ซึ่งการแก้ปัญหาที่ได้ผลจริงจังต้องแก้ไขที่ต้นเหตุ คือ การยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับปลดกัญชา

 

 

2.การปลดกัญชาเสรีด้วยประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 เป็นความผิดพลาดทางนโยบายตั้งแต่ต้น ด้วยเหตุผล 4 ประการ คือ

 

1) การปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติดเป็นการกระทำผิดต่ออนุสัญญาว่าด้วยยาเสพติด ค.ศ. 1961 ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีโอกาสถูกลงโทษ  

 

2) การปลดกัญชาเสรีเกิดจากการอ้างว่าประมวลกฎหมายยาเสพติด มีเจตนาปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติด เพราะไม่มีคำว่า "กัญชา" ในประมวลกฎหมายยาเสพติด แต่กระทรวงสาธารณสุขกลับยังกำหนดให้ "เห็ดขี้ควาย" เป็นยาเสพติด แม้จะไม่มีคำว่าเห็ดขี้ควายในประมวลกฎหมายยาเสพติดเช่นกัน ดังนั้นการไม่มีคำว่ากัญชาในประมวลกฎหมายยาเสพติด จึงไม่ใช่เหตุผลสนับสนุนการปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติด  

 

3) หากกระทรวงสาธารณสุขยังไม่ปลดกัญชาด้วยประกาศกระทรวงสาธารณสุข แต่เสนอให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาปลดกัญชาด้วยกฎหมายกัญชา จะไม่เกิดสภาวะสุญญากาศกัญชาเสรีแบบในปัจจุบัน เพราะจะเกิดสภาวะกัญชาทางการแพทย์ ภายใต้ประมวลกฎหมายยาเสพติดแทน ในระหว่างการพิจารณากฎหมายกัญชา  


 

4) มติคณะกรรมการ ป.ป.ส. วันที่ 25 ม.ค. 2565 กำหนดให้บังคับใช้ประกาศกระทรวสาธารณสุขฉบับ ปลดกัญชาเมื่อพ้น 120 วันหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีกฎหมายกัญชาออกมาควบคุมก่อนที่จะปลดกัญชาเสรี และให้เลื่อนเวลาออกไปได้หากยังไม่มีกฎหมายกัญชาออกมา แต่กระทรวงสาธารณสุขยังคงเดินหน้าให้มีการบังคับใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับปลดกัญชา ทั้งๆ ที่ยังไม่มีกฎหมายกัญชาบังคับใช้ ถือเป็นการฝ่าฝืนมติคณะกรรมการ ป.ป.ส. วันที่ 25 ม.ค. 2565 จึงเห็นได้ว่าประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับปลดกัญชา ขาดความชอบธรรมและเป็นความผิดพลาดทางนโยบาย ทำให้เกิดการแพร่หลายของกัญชา เพื่อนันทนาการและมีเยาวชนเข้ามาใช้กัญชาให้เห็นได้มากมายทั่วประเทศไทย การยกเลิกประกาศฉบับนี้ จึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งและจะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นทาง

 

3.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีอำนาจในการกำหนดเพิ่มเติม เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกรายชื่อยาเสพติดให้โทษได้ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ป.ป.ส. ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 29 วรรคสอง โดยไม่ต้องแก้กฎหมายใดๆ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ใช้อำนาจตามประมวลกฎหมายนี้มาแล้วถึง 3 ครั้ง อีกทั้งรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ทางสื่อสาธารณะว่า แท้จริงต้องการชะลอการบังคับใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับปลดกัญชา เพียงแต่คณะกรรมการ ป.ป.ส. ไม่เรียกประชุมเท่านั้น (ดู https://www.youtube.com/watch?v=5VYQx3y-WMQ นาทีที่ 17)  

 

ดังนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ป.ป.ส.) สามารถที่จะยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับปลดกัญชาได้ ซึ่งจะทำให้สภาวะสุญญากาศกัญชาเสรีจะยุติลงทันที ในระหว่างรอการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา และจะทำให้สภามีเวลาในการพิจารณากฎหมายกัญชาได้อย่างรอบคอบต่อไป

 

หากมีการยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับปลดกัญชา ประเทศไทยจะกลับไปเป็นกัญชาทางการแพทย์ ภายใต้ประมวลกฎหมายยาเสพติดดังเดิม ผู้ป่วยที่ต้องใช้กัญชาทางการแพทย์จะยังคงได้รับการรักษาเช่นเดิม หากกระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการ ป.ป.ส. ไม่มีการดำเนินการในเรื่องนี้ จะฟ้องศาลปกครองเพื่อให้ตัดสินยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับปลดกัญชานี้ คงจะต้องดำเนินการต่อไป และ/หรือ ในอนาคตอาจมีประชาชนหรือองค์กรใดดำเนินการฟ้อง ม.157 ทั้งสองหน่วยงานนี้ ว่าละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากปรากฏเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า การปลดกัญชาเสรีด้วยประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่คณะกรรมการ ป.ป.ส. มีมติเห็นชอบด้วย ก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อประชาชนมากมาย

 

สำหรับรายชื่อ เครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด รวม 37 คน อาทิ

 

 

logoline