องต์กรสิทธิมนุษยชน “ฟอร์ติฟาย ไรทส์” (Fortify Rights) แถลงข่าวที่กรุงเทพฯ ในวันอังคาร (24 ม.ค.)โดยเปิดเผยว่า องค์กรฯ ร่วมกับประชาชน 16 คนจากเมียนมา ยื่นฟ้องคดีอาญาที่ศาลในเยอรมนี เพื่อลงโทษนายพลในเมียนมาในคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติภายในเมียนมา นับจากกองทัพเข้ายึดอำนาจในช่วงต้นปี 2564 และการปราบปรามชาวมุสลิมโรฮิงญาในปี 2560 ที่ทำให้ชาวโรฮิงญากว่า 740,000 อพยพหนีไปยังบังกลาเทศ โดยครึ่งหนึ่งจากโจทก์ทั้งหมด 16 คน เป็นเหยื่อจากการกระทำรุนแรงต่อชาวโรฮิงญา และการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ หลังการรัฐประหาร
คำฟ้องยาว 215 หน้าได้รวบรวมหลักฐานเพื่อช่วยให้อัยการของรัฐสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้มีส่วนรับผิดชอบก่ออาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุดตามกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายเยอรมนี
คำฟ้องมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า นายทหารระดับอาวุโสมีส่วนรับผิดชอบจากการที่ผู้ใต้บังคับบัญชาก่ออาชญากรรม รับรู้การก่ออาชญากรรมของผู้ใต้บังคับบัญชา และไม่ดำเนินการใด ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาชญากรรม และลงโทษผู้กระทำผิด
ฟอร์ติฟาย ไรทส์ ระบุว่า หลักฐานได้จากการสัมภาษณ์ผู้รอดชีวิต เอกสารที่รั่วไหล และข้อมูลจากทหารและตำรวจผู้แปรพักตร์ และรายงานที่รวบรวมโดยชุดสอบสวนของสหประชาชาติ และกลุ่มอื่น ๆ
สำนักงานอัยการเยอรมนี ที่ได้รับคำฟ้องเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ยังไม่ให้ความเห็นใด ๆ และมีหน้าที่ตัดสินใจว่าจะดำเนินการตั้งข้อหา ก่อนยื่นฟ้องเข้าสู่ศาลหรือไม่ ซึ่งเป็นกระบวนการที่อาจใช้เวลายาวนาน
ปัจจุบันก็มีการสอบสวนเอาผิดนายพลเมียนมาในระดับศาลอาญาระหว่างประเทศ และศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ รวมทั้งมีนักเคลื่อนไหวยื่นฟ้องที่ศาลในประเทศต่าง ๆ เช่น อาร์เจนตินา ตุรกี และเยอรมนี ภายใต้หลักการเขตอำนาจศาลสากล โดยหลักการนี้อนุญาตให้ดำเนินคดีสำหรับการกระทำโหดร้ายครั้งใหญ่ โดยไม่คำนึงถึงสถานที่หรือเชื้อชาติ เมื่อการกระทำนั้นร้ายแรงถึงขั้นเป็นอาชญากรรมต่อประชาคมระหว่างประเทศทั้งหมด