นายกรัฐมนตรี ฮัน ด็อก-ซู ของเกาหลีใต้ แถลงในวันศุกร์ว่า ต่อไปนี้จะมีมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยในกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมงานเกินกว่า 10,000 คน โดยหน่วยงานระดับท้องถิ่นจะต้องปรับปรุงแนวทางการรักษาความปลอดภัยให้เหมาะสมในแต่ละงาน เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความจุสูงสุดของพื้นที่ และการแยกย้ายของฝูงชนเมื่อกิจกรรมสิ้นสุด เพื่อให้สามารถเตรียมพร้อมรับมือกรณีเกิดอุบัติเหตุ
การตัดสินใจนี้มีขึ้นหลังจากผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า การขาดมาตรการรักษาความปลอดภัย และความพยายามของเจ้าหน้าที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในเหตุการณ์ฝูงชนแออัดที่ย่านอิแทวอนในกรุงโซลเมื่อคืนวันเสาร์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้สถานการณ์เหยียบกันในซอยแคบ มีผู้เสียชีวิตมากถึง 156 ราย และผู้บาดเจ็บ 187 รายและมีการประเมินว่า ในโศกนาฏรรมอิแทวอน มีความหนาแน่นของผู้ร่วมงานมากถึงเกือบ 5.6-6.6 คนต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่า สถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูงจากฝูงชนแออัดอาจเกิดขึ้นได้กับรถไฟใต้ดินในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน จึงขอให้ตำรวจดำเนินมาตรการป้องกันอุบัติเหตุจากฝูงชนแออัด โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. นี้ ตำรวจจะถูกส่งไปยังสถานีรถไฟใต้ดินทั่วกรุงโซล เพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ของสถานีรถไฟในการควบคุมฝูงชน
และเนื่องจากในช่วงเกิดเหตุเหยียบกันที่อิแทวอน มีภาพปรากฏว่า พลเมืองหลายคนช่วยทำ CPR ให้กับผู้ประสบเหตุ ทำให้เกิดการตื่นตัวและการตระหนักถึงความสำคัญของการฝึกทำ CPR ทำให้กระทรวงศึกษาเตรียมเพิ่มการฝึกอบรมเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติเมื่ออยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีฝูงชนจำนวนมาก เช่น การทำ CPR ไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอนทั่วประเทศ