อาห์ซาน อิกบัล รัฐมนตรีการวางแผนของปากีสถาน เผยเมื่อวันจันทร์ว่า จากการประเมินเบื้องต้น คาดว่า ความเสียหายจากน้ำท่วมฉับพลันครั้งเลวร้ายในประวัติศาสตร์อาจสูงเกินกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์หรือมากกว่า 360,000 ล้านบาท และคาดว่าอาจใช้เวลาฟื้นฟูความเสียหายนานถึง 5 ปี นอกจากนี้ความเสียหายของพืชผลทางการเกษตรอาจทำให้เกิดการขาดแคลนอาหารอย่างหนักในอีกหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนข้างหน้า และเชื่อว่าอุทกภัยครั้งนี้เลวร้ายกว่าปี 2553 ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 2,000 รายมากที่สุดในประวัติศาสตร์
นอกจากนี้มิฟตาห์ อิสมาอิล รัฐมนตรีคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลอาจพิจารณานำเข้าผักจากอินเดีย รวมถึงอาจนำเข้าอาหารจากชาติอื่น ๆ ด้วยรวมถึง ตุรกีและอิหร่าน ขณะที่มีรายงานว่าราคาอาหารพุ่งสูงขึ้นแล้วเนื่องจากผลผลิตถูกน้ำท่วมและถนนเสียหาย
น้ำท่วมฉับพลันจากฝนตกหนักในฤดูมรสุมจนถึงขณะนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 1,136 ราย และส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 33 ล้านคน หรือกว่า 15% ของประชากรราว 220 ล้านคน ภัยพิบัติยังทำให้บ้านเรือนราว 1 ล้านหลังได้รับความเสียหายหรือพังราบ ถนน สะพาน และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ เสียหายจำนวนมาก
และเมื่อวันจันทร์ เชอร์รี เรห์มาน รัฐมนตรีการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ กล่าวว่า เวลานี้พื้นที่ 1 ใน 3 ของประเทศจมอยู่ใต้น้ำแล้ว ซึ่งเกินกว่าที่เคยพบเห็นในอดีต
หลายประเทศเริ่มจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปถึงปากีสถานแล้ว โดยเครื่องบินจากกองทัพตุรกีและสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ลำเลียงเตนท์ อาหาร และสิ่งของจำเป็นไปถึงกรุงอิสลามาบัดเมื่อวันอาทิตย์ จีนจะจัดส่งเตนท์ และญี่ปุ่นจะส่งผ้าใบและบ้านพักสำหรับผู้ประสบภัย และอีกบางประเทศประกาศให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ขณะที่รัฐบาลปากีสถาน บอกว่า การร้องขอความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเป็นทางการยังต้องรอการประเมินความเสียหายที่แท้จริง
ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF ได้จัดสรรเงินกู้กว่า 1,100 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยให้ปากีสถานหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยเงินจำนวนนี้เป็นส่วนหนึ่งของแพกเก็จเงินกู้ที่ปากีสถานได้รับตั้งแต่ปี 2562 แต่หยุดชะงักไปช่วงต้นปีนี้