พื้นที่ 1 ใน 3 ปากีสถานจ่อจมบาดาลช่วงสิ้นฤดูมรสุม

สำนักข่าวรอยเตอร์เผยภาพมุมสูงแบบ 360 องศาของเมืองโรชานในรัฐปัญจาบ ที่เห็นผืนดินกว้างใหญ่กลายเป็นผืนน้ำจากฝนตกหนักในฤดูมรสุมครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่ง

เชอร์รี เรห์มาน รัฐมนตรีที่กำกับดูแลเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของปากีสถาน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ฝนตกหนักอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนได้ทำให้เกิดหายนะด้านสภาพภูมิอากาศ ที่น้ำท่วมบ้านเรือน ทำลายพื้นที่การเกษตร และส่งผลให้ประชาชนหลายล้านคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน

เธอบอกกับดอยชต์ เวลส์ สื่อของเยอรมนีด้วยว่า “เราจำเป็นต้องให้กองทัพเรือเข้าร่วมปฏิบัติการกู้ภัยครั้งแรกเพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ดูคล้ายกับมหาสมุทรย่อม ๆ” และก่อนหน้านั้นเธอให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ทีอาร์ที เวิลด์ของตุรกีเมื่อวันพฤหัสบดีด้วยว่า “เมื่อฤดูมรสุมสิ้นสุด เราอาจเห็นพื้นที่ 1 ใน 4 หรือ 1 ใน 3 ของปากีสถานจมอยู่ใต้น้ำ”

สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติ หรือ NDMA รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากฝนตกหนักและน้ำท่วมตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย. เพิ่มเป็น 1,061 ราย และผู้บาดเจ็บ 1,571 คน และฝนยังไม่หยุดตกทำให้คาดว่า ตัวเลขจะสูงยิ่งขึ้นอีก นอกจากนี้ถนนระยะทาง 3,475 กม. และสะพาน 157 แห่งได้รับความเสียหาย บ้านเรือนเกือบ 1 ล้านหลังเสียหายหรือพังราบ และปศุสัตว์ล้มตายกว่า 720,000 ตัว

ภาพถ่ายดาวเทียมของแมกซาร์ เทคโนโลจีส์ ที่เผยแพร่ในวันนี้ เผยให้เห็นภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังความเสียหายของบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรจมอยู่ใต้น้ำตามริมฝั่งแม่น้ำอินดุส เมืองราชันปุระ และเมืองโรชานในรัฐปัญจาบ รัฐที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศ

ขณะเดียวกันบิลาวัล ภุตโต-ซาร์ดารี รัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ฤดูมรสุมปีนี้สร้างความหายนะอย่างที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนและเกินกว่าจะหาคำบรรยายได้ พร้อมกับเรียกร้องให้ทั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประชาคมโลก และองค์กรระหว่างประเทศให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อบรรเทาภัยพิบัติและฟื้นฟูบ้านเมืองจากหายนะครั้งใหญ่หลวง  โดยคำนึงถึงวิกฤตเศรษฐกิจที่ปากีสถานเผชิญอยู่ในขณะนี้ด้วย

คณะกรรมการ IMF จะตัดสินใจในสัปดาห์นี้ว่าจะปล่อยเงินกู้ 1,200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นเงินงวดที่ 7 และ 8 ของโครงการความช่วยเหลือที่ปากีสถานได้รับตั้งแต่ปี 2562 หรือไม่

ปากีสถานยังอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากภัยพิบัติครั้งนี้ แต่เบื้องต้นมีการคาดการณ์ว่า อาจสูงถึง 4,000 ล้านดอลลาร์ แต่จำนวนที่แท้จริงอาจสูงมากกว่านี้