ม็อกตาดา อัล-ซาดร์ นักการศาสนานิกายชีอะห์ ประกาศเมื่อวันจันทร์ถอนตัวจากเวทีการเมืองขั้นสุดท้ายและปิดสำนักงานทางการเมืองทั้งหมดของเขา
การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากพรรคการเมืองของอัล-ซาดร์คว้าที่นั่งมากที่สุดในการเลือกตั้งเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว แต่ความขัดแย้งระหว่างเขาและพันธมิตรทางการเมืองชีอะห์ที่เป็นคู่แข่งและได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน ทำให้การเจรจาจัดตั้งรัฐบาลล้มเหลว และส่งผลให้ประเทศไม่มีรัฐบาลมานาน 10 เดือน ซึ่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของอิรัก
การประกาศของอัล-ซาดร์ทำให้ผู้สนับสนุนของเขาบุกทำเนียบรัฐบาลในเขตกรีนโซนของกรุงแบกแดดที่มีการรักษาความปลอดภัยแน่นหนา และปะทะกับตำรวจปราบจลาจลและผู้สนับสนุนฝ่ายชีอะห์ที่เป็นคู่แข่งของอัล-ซาดร์นอกเขตกรีนโซน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า มีการใช้กระสุนปืน ค. และระเบิดมือยิงด้วยจรวดในการปะทะเดือดดังกล่าว ขณะที่มีรายงานผู้ประท้วงได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 350 ราย ซึ่งบางคนมีบาดแผลจากกระสุนปืนและอาการสำลักแก๊สน้ำตา ต่อมาอัล-ซาดร์ ประกาศอดอาหารประท้วงจนกว่าความรุนแรงและการใช้อาวุธจะยุติลง
เดิมกองทัพอิรักประกาศเคอร์ฟิวทั่วกรุงแบกแดดตั้งแต่เวลา 15.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น แต่ต่อมาขยายเคอร์ฟิวทั่วประเทศเริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น และการประชุมคณะรัฐมนตรีถูกระงับชั่วคราวจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
การประท้วงและความรุนแรงหลังการถอนตัวทางการเมืองของอัล-ซาดร์อาจทำให้อิรักไร้เสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้ผู้สนับสนุนของอัล-ซาดร์ ก่อเหตุบุกเขตกรีนโซน และเข้ายึดอาคารรัฐสภาในช่วงปลายเดือน ก.ค. รวมทั้งปักหลักชุมนุมในเขตกรีนโซนนาน 4 สัปดาห์เพื่อสนับสนุนข้อเรียกร้องของอัล-ซาดร์ ที่ต้องการให้ยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่
และศาลสูงสุดอิรักจะประชุมในวันอังคารนี้เพื่อพิจารณาคำร้องขอของอัล-ซาดร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ต้องการให้ศาลสั่งยุบสภา แต่ประธานศาลยืนยันว่าไม่มีอำนาจยุบสภา และบอกด้วยว่า การพิจารณาของศาลอาจเลื่อนออกไป หากการประท้วงรุนแรงยิ่งขึ้น
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่อัล-ซาดร์ประกาศถอนตัวจากการเมือง และหลายฝ่ายมองว่าการประกาศล่าสุดอาจเป็นเพียงการเรียกเสียงสนับสนุนเหนือฝ่ายคู่แข่ง แต่ก็อาจทำให้การเมืองที่เปราะบางตึงเครียดยิ่งขึ้น ส่วนชาติเพื่อนบ้านในภูมิภาคเพิ่มการเฝ้าระวัง
อิหร่านประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปอิรักทั้งหมด และปิดด่านชายแดนระหว่างสองประเทศทั้งหมด รวมทั้งแนะนำให้พลเมืองหลีกเลี่ยงการเดินทางไปอิรักด้วย และสถานทูตคูเวตในอิรักเรียกร้องให้พลเมืองเดินทางออกจากอิรัก และแนะนำให้คนที่มีแผนไปอิรักเลื่อนการเดินทาง ส่วนตุรกีแนะนำให้พลเมืองเลี่ยงเดินทางไปกรุงแบกแดด