สิงคโปร์แอร์ไลน์สเลิกบังคับสวมหน้ากากอนามัย

นับตั้งแต่วันจันทร์ (29 สิงหาคม) เป็นต้นไป Singapore Airlines สายการบินแห่งชาติของสิงคโปร์ จะไม่บังคับสวมหน้ากากอนามัยในบางเที่ยวบิน โดยให้สวมเฉพาะพวกผู้โดยสารที่เดินทางไป หรือกลับจากจุดหมายปลายทางที่กำหนดให้สวมหน้ากากฯ บนเที่ยวบินเท่านั้น หลังจาก SIA เข้าร่วมเป็นภาคีกับสายการบินนานาชาติแห่งอื่น เช่น British Airways และ Virgin Atlantic ที่ออกนโยบายแบบเดียวกันตั้งแต่ต้นปี นอกจากนี้ที่สนามบินนานาชาติชางงีก็ไม่บังคับสวมหน้ากากอนามัยอีกด้วย 

ปัจจุบันมีหลายประเทศที่ออกกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกัน เกี่ยวกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยในยุโรปพบว่าเยอรมนีกับสเปน ยังกำหนดให้ผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากฯ ขณะอยู่บนเที่ยวบิน ส่วนเนเธอร์แลนด์กับสหราชอาณาจักรกับไม่บังคับ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทุกประเทศยังคงบังคับให้สวมหน้ากากฯ ยกเว้นประเทศไทย ออสเตรเลียยังคงบังคับสวมหน้ากากฯ แต่นิวซีแลนด์ไม่บังคับ ที่อเมริกาเหนือ แคนาดาบังคับ แต่สหรัฐฯ ไม่บังคับ 

SIA ระบุว่าจะอัปเดตการเปลี่ยนแปลงกฎการสวมหน้ากากอนามัยในเว็บไซต์ เมื่อมีความคืบหน้า และผู้โดยสารควรหมั่นตรวจสอบข่าวล่าสุด ซึ่งการปรับปรุงนโยบายของสายการบินเป็นไปตามแนวทางล่าสุดของรัฐบาล ที่ว่าไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากฯ ในทุกสถานที่ที่เป็นที่ร่ม ยกเว้นในระบบขนส่งสาธารณะและสถานที่อำนวยความสะดวกด้านสุขอนามัย เช่น โรงพยาบาล 

นักสังเกตการณ์ด้านอุตสาหกรรมการบิน ได้แนะนำให้ยกเลิกมาตรการบังคับสวมหน้ากากฯ บนเครื่องบิน เนื่องจากบนเครื่องบินมีอัตราการรระบายกาศในระดับสูง ทำให้ความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 บนเที่ยวบิน ต่ำกว่าความเสี่ยงจากกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ห้ามสรรพสินค้า หรือการทำงานในสำนักงาน ซึ่งเครื่องบินของ SIA และ Scoot ได้ติดตั้งแผ่นกรองอากาศ HEPA (High Efficiency Particulate Air) ที่มีประสิทธิภาพสูง กำจัดจุลินทรีย์ในอากาศได้ถึง 99.97 % รวมทั้งไวรัสและแบคทีเรีย และฟื้นฟูอากาศในห้องโดยสารทุก ๆ 2-3 นาที

สายการบินที่ไม่บังคับสวมหน้ากากอนามัย ได้แก่ EasyJet, Scandinavian Airlines, KLM และสายการบินประหยัด Avelo Airlines