ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวในคลิปวิดีโอที่บันทึกถ้อยแถลงเนื่องในวันชาติ โดยเปรียบเทียบว่า วันที่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. เป็นวันที่ประเทศยูเครนเกิดใหม่อีกครั้งใหม่ และยูเครนจะต่อสู้จนถึงที่สุด โดยไม่มีการยินยอมหรือการประนีประนอมใด ๆ พร้อมทั้งประกาศด้วยว่า อยากให้สงครามยุติลงด้วยชัยชนะของยูเครน เขายืนอยู่ท่ามกลางซากรถถังของรัสเซียที่ถูกทำลายและจัดแสดงบนท้องถนนใกล้จตุรัสไมดานในกรุงเคียฟ และหน้าอนุสาวรีย์รำลึกการประกาศอิสรภาพหลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 2534
ก่อนหน้านี้เซเลนสกี กล่าวเตือนเมื่อวันอังคารว่า รัสเซียอาจเพิ่มความพยายามในการโจมตีครั้งใหม่ รวมถึง การยิงขีปนาวุธทำลายโครงสร้างพื้นฐานหรือสถาบันของรัฐในช่วงวันชาติ และรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเตือนให้พลเมืองอเมริกันออกจากยูเครนทันที
และในเช้าวันนี้มีเสียงสัญญาณเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังขึ้นทั่วกรุงเคียฟ และรัฐบาลห้ามการรวมกลุ่ม โดยเตือนว่ารัสเซียอาจยิงขีปนาวุธโจมตีครั้งใหม่ในหลายเมืองใหญ่ และกองทัพขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำเตือนอย่างจริงจัง แต่ยังคงมีประชาชนออกมาชมและถ่ายภาพซากรถถังรัสเซียอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันอาทิตย์
สงครามที่ยืดเยื้อนาน 6 เดือนทำให้พลเรือนเสียชีวิตหลายพันคน และประชาชนกว่า 1 ใน 3 จากทั้งหมด 41 ล้านคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน บ้านเมืองพังพินาศ และส่งผลกระทบต่อตลาดโลก โดยยังไม่มีท่าทีว่าจะเกิดการเจรจาสันติภาพได้ในเวลานี้
บรรดาผู้นำยุโรปร่วมแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับยูเครนเนื่องในวันชาติ และประกาศจะให้การสนับสนุนในการต่อสู้กับการรุกรานจากรัสเซีย ส่วนเยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการองค์การนาโต กล่าวว่า สงครามน่าจะจบลงที่โต๊ะเจรจา แต่ก็ขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งในสนามรบ ซึ่งนาโตจะให้การสนับสนุนยูเครนยาวนานเท่าที่ต้องการ
ขณะที่เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย กล่าวระหว่างเยือนอุซเบกิสถาน โดยชี้แจงเรื่องที่ตะวันตกบอกว่า ปฏิบัติการของรัสเซียไม่คืบหน้าเท่าที่ควรว่า ปฏิบัติการทางทหารยังคงเป็นไปตามแผน แต่การรุกคืบอาจช้าลงเป็นเพราะตั้งใจหลีกเลี่ยงการสูญเสียชีวิตพลเรือน