svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ผบ.ตร. ย้ำ ดำเนินคดี ไม่ละเว้น หากพบ "ด.ต." ผิด ปมใช้ถุงดำคลุมหัว "ลุงเปี๊ยก"

19 มกราคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผบ.ตร. ย้ำ ดำเนินคดี ไม่ละเว้น หากพบ "ดาบตำรวจ" ผิด ปมใช้ถุงดำคลุมหัวบังคับ "ลุงเปี๊ยก" ให้รับสารภาพคดี "ป้าบัวผัน" ขณะที่ ตำรวจภาค 2 เตรียมแถลงผลสอบข้อเท็จจริง ปมถุงดำคลุมหัว พรุ่งนี้

19 มกราคม 2567 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาติดตามการดำเนินคดีกับกลุ่มเยาวชนที่ฆาตกรรม "ป้าบัวผัน" หรือ "ป้ากบ" และแก๊งของวัยรุ่นกลุ่มนี้ในพื้นที่อรัญประเทศที่ก่อความวุ่นวาย และเหตุอาญชากรรม พร้อมทั้งติดตามการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีปรากฎคลิปเสียงของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ที่ได้มีการบังคับขู่เข็ญให้ "ลุงเปี๊ยก" สามีป้ากบ รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือสังหารภรรยา

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.
ภายหลังการประชุมนานกว่า 2 ชม. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้ข้อยุติแล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด หากตำรวจกระทำการผิดขั้นตอนละเมิดต่อกฎหมาย พ.ร.บ.อุ้มหาย ที่หลายคนตั้งประเด็นสงสัยไว้ก็ต้องดำเนินการตำรวจนายนั้นต้องรับผิดชอบต่อการกระทำ ยืนยันจะไม่มีการช่วยเหลือแต่อย่างใด ซึ่งการทำงานตรวจสอบเรื่องนี้ในวันนี้ถือว่าคืบหน้าไปมากแล้ว เพราะมีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง

เมื่อถามถึงกรณีเมื่อวานนี้ มีการสอบปากคำ "ดาบตำรวจ" ที่ถูกพาดพิงว่าเป็นคนใช้ถุงดำคลุมหัว "ลุงเปี๊ยก" ให้รับสารภาพลงมือก่อเหตุสังหาร "ป้าบัวผัน" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ บอกว่า หากมีการตรวจสอบแล้ว หากดาบตำรวจคนดังกล่าวมีความผิดจริง จะมีการดำเนินคดีไม่มีละเว้นโทษ ตัวเองลงมาตรวจสอบเรื่องด้วยตนเองแล้ว เรื่องจะต้องจบอย่างตรงไปตรงมา ใครผิดก็ว่าไปตามผิดใคร หากใครไม่เกี่ยวข้องก็คือไม่เกี่ยวข้อง เพราะทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ด้วยหลักของนิติวิทยาศาสตร์และสำนวนคดี

ด้าน พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า กรณีนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ยืนยันจะได้คำตอบทุกเรื่องที่สังคมสงสัยภายในวันพรุ่งนี้ และจะมีการแถลงต่อสื่อมวลชนอีกครั้งในเวลา 11:30 น. ของวันพรุ่งนี้ 

เมื่อถามว่า ตอนนี้สังคมตั้งข้อสงสัยว่า ดาบตำรวจที่ถูกพาดพิงว่าเป็นคนใช้ถุงดำคลุมหัวลุงเปี๊ยก เป็นตำรวจธุรการ และมาทำหน้าที่นี้อย่างไร พล.ต.ท.สมประสงค์ บอกว่า หลังเกิดเหตุดาบตำรวจคนดังกล่าว ได้รับการสั่งการจากผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดในเรื่องการสืบสวน หลังมีการรับแจ้งเหตุว่า พบศพ น.ส.บัวผัน ก็มีการ มีแบ่งหน้าที่ออกเป็นสองชุด 

ชุดแรก คือ ตำรวจที่จะต้องออกไปตามหาตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องและใกล้ชิดของผู้เสียชีวิต ซึ่งนั่นก็คือลุงเปี๊ยก พอได้ตัวลุงเปี๊ยกมาก็แบ่งทีมตำรวจอีกหนึ่งทีม เพื่อซักถามลุงเปี๊ยก ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการลงมือก่อเหตุ น.ส.บัวผัน หรือไม่ ส่วนอีกทีมมีหน้าที่ในการไล่พยานหลักฐาน เช่น การลงพื้นที่ค้นหากล้องวงจรปิด และพยานแวดล้อมอื่นเข้ามาประกอบสำนวน ก่อนจะย้ำยืนยันอีกครั้งว่า ดาบตำรวจคนดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา
พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.สส.ภ.2
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผลการสอบปากคำออกมาแล้วดาบตำรวจคนดังกล่าวไม่ได้มีการใช้ถุงดำคลุมศีรษะลุงเปี๊ยกจริง ทางด้านของลุงเปี๊ยกจะมีความผิดฐานให้การเท็จหรือไม่ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.สส.ภ.2 บอกว่า พรุ่งนี้ (20 ม.ค.) จะแถลงรายละเอียดส่วนนี้อีกครั้งหนึ่ง 

เมื่อถามต่อว่า แล้วเรื่องนี้จะต้องมีคนถูกดำเนินคดีมากกว่าหนึ่งคนหรือไม่ พล.ต.ต.ธีระชัย ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม

ผบ.ตร. ยันไม่มีสองมาตรฐาน

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังกล่าวถึงการปราบปรามกลุ่มแก๊งค์เด็กและเยาวชน ว่า  ไม่ใช่เฉพาะพื้นที่สระแก้ว  แต่ฝากกบอกผู้กำกับ กับผู้การทุกโรงพัก จะต้องป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ กลุ่มแก๊งพวกนี้สำคัญ 

"ที่ผ่านมาไม่เคยสะดุดภูเขาล้ม แต่สะดุดก้อนหินล้มเท่านั้น จึงต้องการยกระดับการสืบสวนสอบสวน เมื่อก่อนนักเรียนตีกัน คู่กรณีก็ตีกันแบบนี้ แต่ถ้าเอางานสืบสวนยุค 5 จีมาใช้ ก็จะเอาทั้งขบวนการได้ เส้นทางการเงินต่างๆ เพื่อเป็นการยกมาตรฐานของการสืบสวน ใครที่มีพฤติกรรมแบบนี้ก็ขอให้เลิก เพราะมี พรบ.อุ้มหาย ทุกอย่างต้องทำภายใต้กฎหมายเท่านั้น" ผบ.ตร. กล่าว

เมื่อถามถึงข้อสงสัยเรื่องการช่วยเหลือลูกตำรวจ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ทำไมเราต้องช่วย ตนไม่มีสองมาตรฐาน ไม่ต้องช่วยลูกผิดก็คือผิด ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ตนลงมาแล้วไม่มีลูกตำรวจหรอก ลูกนักการเมืองตนยังเอาเลย ถ้าอิทธิพลอยู่เหนือตำรวจ พี่น้องตาดำๆจะมีที่ยืนที่ไหนในประเทศนี้

"บิ๊กต่อ" แจง ปมอาชญากรเด็ก เดินหน้าแก้อายุ บทลงโทษ ให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก่อนเสนอ ก.ยธ.

เมื่อถาม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ถึงข้อสงสัยหลังจากเกิดคดีป้าบัวผัน หลังจากนั้นเริ่มมีเคสที่ถูกเด็กกลุ่มนี้ก่อเหตุสร้างความเดือดร้อน มีข้อสงสัยหรือไม่ ว่าทำไมก่อนหน้านี้ไม่เคยมีการมาแจ้งตำรวจให้ช่วยดำเนินคดีกับกลุ่มเด็กเหล่านี้ ผบ.ตร. กล่าวว่า ตัวเองไม่มั่นใจว่าทำไมถึงไม่มีการแจ้งเรื่องกับตำรวจ แต่เชื่อว่าหากมีการแจ้งเรื่องกับตำรวจตำรวจก็จะดำเนินคดีแน่นอน 

ส่วนข้อสงสัยที่ว่า กลุ่มนี้มีอิทธิพลทำให้ผู้เสียหายไม่กล้ามาแจ้งตำรวจ ผบ.ตร. บอกว่า จากการตรวจสอบไม่ได้มีแค่แก๊งเด็กตังค์ไม่ออกกลุ่มเดียวที่ก่อเหตุในพื้นที่ กลุ่มเด็กที่สร้างความเดือดร้อนมีทั้งหมด 3 แก๊ง ซึ่งตอนนี้มีการสั่งการให้ตำรวจพื้นที่ทลายแก๊งเหล่านี้ให้หมด เช่นเดียวกับที่ตัวเองเคยทลายแก๊งลักษณะนี้มาแล้วในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดอื่นๆ ส่วนข้อกังวลที่บอกว่าเด็กกลุ่มนี้เป็นรูปของตำรวจมีอิทธิพลแล้วจะไม่ถูกกวาดล้าง ส่วนข้อสงสัยที่ว่าเด็กกลุ่มนี้เป็นลูกตำรวจมีอิทธิพลแล้วจะไม่กวาดล้าง ยืนยันว่าจะทำงานเชิงรุก กวาดล้างให้หมด 
ผบ.ตร. ย้ำ ดำเนินคดี ไม่ละเว้น หากพบ \"ด.ต.\" ผิด ปมใช้ถุงดำคลุมหัว \"ลุงเปี๊ยก\"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มองยังไงที่ตอนนี้อาชญากรตอนนี้กลายเป็นเยาวชนมากขึ้น ผบ.ตร.มองว่า เป็นเรื่องของ Social dynamics เด็กมีการศึกษาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตมากขึ้น ทำให้ได้รับสื่อที่เกี่ยวกับความรุนแรงและข้อมูลที่ไม่เหมาะสมได้ง่าย เช่น แก๊งที่เขวี้ยงระเบิดปิงปอง ก็ศึกษาจากโซเชียล เหตุนี้ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการเรื่องอายุเกินกว่าวัย จนนำไปสู่การก่อเหตุอาชญกรรม หรือกลายเป็นอาชญากรที่อายุน้อยลง 

เมื่อถามว่า แล้วตำรวจจะปรับตัวรับมืออย่างไร ผบ.ตร.บอกว่า ที่ผ่านมาเคยมีการพูดถึงเรื่องอายุของเยาวชน ในเรื่องการรับโทษ จากต่ำกว่า 15 ปี เป็น 12 ปี ซึ่งในส่วนของตำรวจได้ตั้งคณะกรรมการที่จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคดีที่เด็กเป็นผู้ก่อเหตุย้อนหลังไป 5 ปี เพื่อหาสถิติ การก่อเหตุของเด็กก่อนจะเสนอแก้กฎหมายต่อไป เนื่องจากมองว่าเรื่องนี้ละเอียดอ่อน มีทั้ง NGO และบุคคลที่เกี่ยวกับสิทธิเด็กที่อาจจะโจมตีเรื่องการแก้โทษกฏหมายเด็กในภายหลัง ทำให้ต้องหาสถิติอย่างชัดเจนก่อน และไม่ใช่ทุกคดีที่จะลดอายุการรับโทษของเด็ก มองว่าในส่วนของการปรับโทษควรเป็นคดีอาชญากรรมรุนแรง เช่น ฆ่า ข่มขืน ที่ควรปรับแก้กฎหมายให้รับโทษแบบผู้ใหญ่ 

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังต้องผ่านอีกหลายกระบวนการ เริ่มต้นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้ยุทธศาสตร์ของตำรวจประสานกองกฎหมายและคดี มาปรึกษาหาหรือร่วมกัน และให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ ก่อนนำเสนอเรื่องนี้ถึงกระทรวงยุติธรรมให้พิจารณาภาพรวมต่อไป

ส่วนประเด็นเรื่องการทำงานของตำรวจที่ผิดพลาด สืบสวนสอบสวนเร่งรัดเร่งรัด จนนำตัวลุงเปี๊ยกส่งฝากขังต่อศาล โดยที่ยังไม่มีพยานหลักฐานชัดเจน ผบ.ตร.ตอบประเด็นนี้ ว่า ต้องไล่ดูการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนตามขั้นตอนว่า รวบรัดหรือข้ามขั้นตอนในส่วนไหน ซึ่งหากพบว่าการสืบสวนมีข้อบกพร่อง ก็จะมีการดำเนินการทางวินัยอย่างแน่นอน 

ส่วนกรณีการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ออกมาเปิดเผยหลักฐานในคดีนี้ มองว่ากระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ ผบ.ตร. มองว่า เรื่องนี้ต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยตำรวจหาพยานหลักฐาน รวมถึง เรื่องการนำเคสผู้เสียหายออกมาเปิดเผยจะนำไปสู่การตรวจสอบด้วย

logoline