svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

“บิ๊กโจ๊ก” เผยคดี “แอม ไซยาไนด์” เตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการสัปดาห์หน้า

“บิ๊กโจ๊ก” แจงคืบหน้าคดี“แอม ไซยาไนด์” หลักฐานชัด เงินสั่งออนไลน์ ปี 64 อยู่ระหว่างวิเคราะห์คนรอบข้าง พบพยานให้การเท็จ เตรียมเรียกคุยอีกครั้ง ระบุคดีนี้สำนวนเร็วและรอบคอบ ถือเป็นคดีตัวอย่าง เตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการสัปดาห์หน้า

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงการดำเนินการทางกฎหมายกับนางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ "แอม ไซยาไนด์" ว่า ความคืบหน้าของคดีนี้ มียาไซยาไนด์ 8 ขวด ที่ไล่เช็กมาทั้งหมด 700 กว่าขวด เพื่อหาความเชื่อมโยงเพิ่มน้ำหนักในสำนวนว่า "แอม" ได้สารไซยาไนด์มาอย่างไร หรือสารไซยาไนด์ไปอยู่ในมือของแอมได้อย่างไร กระทั่งทราบว่า 1 ใน 8 ขวด แอมเป็นคนสั่งซื้อ ทันทีที่ยาไซยาไนด์ 1 ขวดอยู่ในมือแอม มีผู้เสียชีวิต 11 ศพ วันนี้เรื่องของแอมจบสนิทเพราะเราพบแล้วว่าแอมเป็นคนสั่งซื้อเอง ทุกอย่างมีความเชื่อมโยง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  ระบุอีกว่า ในวันเสาร์ที่ 3 มิ.ย.นี้ จะมีการเก็บตกรายละเอียดในสำนวนทั้งหมด และในสัปดาห์หน้าจะประสานสำนักงานอัยการ เรื่องการเตรียมพร้อมส่ง 15 สำนวนการสอบสวน จากนั้นจะดูการดำเนินคดีกับโรงงาน ผู้ซื้อทั้งหมด รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐของกรมโรงงานฯว่า มีความผิดหรือไม่ พร้อมกันนี้ได้นัดหารือกับเลขาธิการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อดำเนินคดีตามความผิดคุ้มครองผู้บริโภคอีกส่วนหนึ่ง คิดว่าจะมีผู้ต้องหาเพิ่มเติมขึ้น

“ขอยืนยันว่า สัปดาห์หน้าจะสามารถสรุปสำนวนได้อย่างแน่นอน สำนวนเสร็จแล้วเกือบ 100% และจะประสานกับอธิบดีอัยการเพื่อเตรียมความพร้อมประชุมร่วมกันเพื่อส่งสำนวนการสอบสวน” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า การสั่งซื้อยาไซยาไนด์ของแอมมีความชัดเจน โดยสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตเมื่อปี 64 มีหลักฐานเส้นเงินในการสั่งซื้อ ทั้งผู้ซื้อและบริษัทมีความผิดด้วยกัน จะมีโรงงานและเทรดเดอร์ถูกดำเนินคดีอีกเยอะ ส่วนการแจ้งข้อหาเพิ่มกับแอม เราจะมาดูว่ามีข้อหาอะไรบ้างที่จะต้องแจ้งเพิ่มหรือข้อหาอะไรที่ยังไม่ได้แจ้ง จะรวมทั้งหมดไปแจ้งในคราวเดียวกันที่เรือนจำ ส่วนคนรอบข้างกำลังวิเคราะห์อยู่ วันนี้พบแล้วว่ามีพยานบางส่วนที่ให้การในฐานะพยานยังให้การไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงจะเรียกมาคุยใหม่ ถ้ายังให้การไม่ตรงตามข้อเท็จจริงที่เรามีข้อมูลอยู่ก็จะเป็นการให้การเท็จ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุ วันนี้ทุกอย่างมีหมดแล้ว กำลังให้ชุดทำงานวิเคราะห์อีกว่า มีใครผิดอีกหรือไม่ ต้องสกัดออกมาให้ลึกที่สุด แต่ตอนนี้เหลือน้อยแล้ว ส่วนที่ทนายจะฟ้องร้องผมนั้น ไม่ได้กังวลใจ ทนายก็ทำตามหน้าที่มีสิทธิ์ฟ้องร้องได้ แต่เราก็ต้องมีข้อต่อสู้เพราะเจ้าหน้าที่ทำตรงไปตรงมา

เมื่อไหร่ก็ตาม ถ้าบังคับกฎหมายด้วยความเป็นธรรม มองว่าก็สู้ได้หมดเพราะไม่ได้ไปกลั่นแกล้งใคร การทำงานของตำรวจหนีไม่พ้นขึ้นโรงขึ้นศาล เมื่อเราทำหน้าที่ ด่านหน้าแบบนี้ก็ต้องปะทะกับผู้ต้องหา นักกฎหมาย

"สำนวนคดีนี้ถือว่าเป็นสำนวนที่เร็วและรอบคอบเป็นสำนวนคดีตัวอย่างก็ว่าได้ เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนนั่งทำงานทุกวัน ตั้งแต่ 09.00-22.00 น. และผมก็นั่งประชุมด้วยทุกวัน การทำงานแบบนี้เป็นการทำงานแบบบูรณาการอย่างชัดเจน"