29 มกราคม 2566 ศาลอาญากรุงเทพใต้ นัดสืบพยานที่อัยการโจทก์ ขอสืบพยานล่วงหน้าคดีนายตู้ห่าวกับพวก รวม 23 คน กระทำผิดข้อหายาเสพติด และข้อหาอื่นๆ ในวันที่ 31 ม.ค. หลังเลื่อนนัดมาจากการสืบพยานวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากทนายความของนายตู้ห่าวติดว่าความอีกหลายคดีในวันที่ 25-27 ม.ค.2566
ซึ่งการเลื่อนสืบพยานล่วงหน้าครั้งนั้น ทีมทนายความตู้ห่าว อ้างว่า พยานของโจทก์นั้นจะให้การเกี่ยวข้องกับประเด็นที่เกี่ยวกับจำเลยของแต่ละคนอย่างไรบ้าง จึงขอมาทำหน้าที่ด้วยตนเอง เพื่อตรวจสอบประเด็นแห่งคดี ที่เกี่ยวข้องกับจำเลยของตนเป็นอย่างไร
ไล่ 6 นายตำรวจ พัวพันทุนจีนสีเทาออกจากราชการ
สำหรับตำรวจที่เกี่ยวข้องทำผิดในคดีนี้ ถูกลงโทษไล่ออกไปแล้ว 6 นาย โดยแยกเป็นคดีหลัก คือ คดีฟอกเงิน ที่มี พ.ต.อ.หญิงวัทนารีย์ กรณ์ชายานันท์ ภรรยาของนายตู้ห่าวเป็นผู้ถูกกล่าวหา ถูกให้ออกจากราชการ
ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องคือกระทำผิดต่อหน้าที่ เรียกรับสินบน มีตำรวจ 5 นาย เป็นผู้ถูกกล่าวหา ประกอบด้วย รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 พร้อมพลขับ, รองผู้กำกับจราจร สน.ลาดพร้าว, พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา 2 นาย รวม 5 นาย
นอกจากถูกไล่ออกแล้ว ต้นสังกัด คือ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ยังได้ส่งสำนวนการดำเนินคดีไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สอบสวนความผิดแล้ว โดยตำรวจคดีตู้ห่าวทั้ง 6 นาย ยังมีสิทธิต่อสู้ทางคดีตามกฎหมาย
เปิดพฤติกรรม พ.ต.ท.รับงานช่วย "หลานตู้ห่าว"
ผู้สื่อข่าวได้รับเบาะแสเพิ่มเติม จากรายงานการประชุม กรรมาธิการ ปปง. ในวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่า ตำรวจที่ร่วมช่วยเหลือผู้ต้องหารายสำคัญในคดีนี้ คือนายหยาง เฉิน หลานชายของนายตู้ห่าวหลบหนีไปได้ มีพฤติกรรมอย่างไร
โดยตำรวจที่ช่วยเหลือหลานชายนายตู้ห่าว รอดพ้นการถูกควบคุมตัวไปยังสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไปได้ มี 3 นาย คือ รองผู้กำกับจราจร สน.ลาดพร้าว , พนักงานสอบสวนยศร้อยตำรวจเอก และพนักงานสอบสวนยศพันตำรวจตรี สองคนหลังสังกัด สน.ยานนาวา
ย้อนไปวันจับกุม 26 ต.ค.2565 เจ้าหน้าที่ได้จับตัวนายหยาง เฉิน ที่อ้างตัวเป็นหลานของนายชัยณัฐร์ กรชายานันท์ หรือตู้ห่าว ซึ่งจากการตรวจค้นร่างกายพบเคตามีน 2 กรัม ต่อมา รองผู้กำกับจราจร สน.ลาดพร้าว เดินทางมาเจรจากับร้อยตำรวจเอก สน.ยานนาวา เขาอ้างว่ารู้จักคนจีนที่ถูกจับรายหนึ่ง
พบยัดเงินให้พนักงานสอบสวน 2 คน 30,000 บาท
โดยมีการขอร้องให้นำตัวชาวจีนแยกตัวไปผัดฟ้องและฝากขังโดยไม่ให้ใครรู้ ทำให้ร้อยตำรวจเอกนายนี้ ไม่ควบคุมตัวชาวจีนคนดังกล่าวส่งให้กับ สตม. ต่อมาผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว และเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศไทยไปแล้ว
ข้อมูลจากทีมชุดสอบสวน ตรวจสอบพยานหลักฐานพบเส้นทางการเงินของพันตำรวจโท โอนเงินให้ร้อยตำรวจเอก 30,000 บาท จากนั้น ร้อยตำรวจเอกคนดังกล่าว แบ่งเงินให้กับพันตำรวจตรี 15,000 บาท
สำหรับพฤติกรรมของ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 ตรวจพบการเซ็นคำสั่งปล่อยรถยนต์ของกลางรวม 4 คันออกไป สุดท้าย ทั้งหมดถูกตรวจสอบพบความผิด และถูกไล่ออกจากราชการดังกล่าว