svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เตือน มิจฉาชีพแฮกข้อมูลโทรศัพท์ดูดเงินเกลี้ยงบัญชี มุ่งเป้าระบบแอนดรอยด์

15 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ร้อง “เพจสายไหมต้องรอด” ถูกมิจฉาชีพ แฮกข้อมูลโทรศัพท์ดูดเงินออกจากบัญชีแอปฯธนาคารเกลี้ยง ผู้เสียหาย นับ 10 ราย สูญเงินกว่า ล้านบาท มุ่งเป้า ระบบแอนดรอยด์ "เอกภพ" จ่อพาผู้เสียหายร้อง ตำรวจไซเบอร์ 17 ม.ค.นี้

15 มกราคม 2566 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้ง "เพจสายไหมต้องรอด" ได้นำ นายบุรินทร์ บัวผัน และนายกิตติกร จันทร์แก้ว 2 ผู้เสียหายเข้าร้องสื่อมวลชน หลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพแฮกข้อมูลโทรศัพท์ ก่อนโอนเงินออกไปจากบัญชีธนาคาร มีผู้เสียหาย มากกว่า 10 ราย ความเสียหายมูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาท

นายเอกภพ เปิดเผยว่า วันนี้(15 ม.ค.) มีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียน เรื่องถูกแฮกข้อมูลโทรศัพท์ และโอนเงินจากแอปฯบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย ไปยังบัญชีอื่น จากที่ตนได้สอบถามผู้เสียหาย มองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะพฤติการณ์ของมิจฉาชีพมีการพัฒนาขึ้น จากปกติก่อนหน้านี้ จะมีการส่งลิงค์ต่างๆ มาหลอกให้กดเพื่อดูดข้อมูล หรือเป็นช่องทางในการเข้าถึงโทรศัพท์ ที่มีแอปพลิเคชันของธนาคาร 

ผู้เสียเข้าร้อง เพจสายไหมต้องรอด ถูกมิจฉาชีพแฮกข้อมูลโทรศัพท์ดูดเงินในแอปฯธนาคารเกลี้ยงบัญชี

แต่ในผู้เสียหายกลุ่มนี้ ค่อนข้างระวังตัวมาก ไม่โหลดแอปฯแปลกๆ ไม่ชาร์ตแบตเตอรี่หรือใช้ไวไฟสาธารณะ แต่จู่ๆ มีข้อความจากธนาคารแจ้งเตือนว่า ได้มีการโอนเงินจากธนาคารของตัวเอง ไปยังธนาคารปลายทาง ทั้งๆ ที่ผู้เสียหายไม่ได้เป็นผู้ทำธุรกรรมทางการเงินใดๆ จึงเชื่อว่าตอนนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก และน่าจะขยายวงกว้างออกไปอีก

พฤติการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมา ตั้งแต่วันที่ 5-14 มกราคม ที่ผ่านมา โดยเงินของผู้เสียหายจะถูกโอนเข้าไปในหลายบัญชี แต่หลักๆ ที่ถูกโอนเข้าไป คือบัญชีของนายจักรกฤษ (สงวนนามสกุล) โดยยอดเงินผู้เสียหายมีตั้งแต่ยอดเล็กๆ ไปจนถึง 5 แสนบาท ซึ่งโทรศัพท์ทั้งหมดที่ถูกแฮกจะเป็นโทรศัพท์แอนดรอยด์ทั้งหมด 

นอกจากนี้ผู้เสียหายบางรายที่ใช้ไอโฟน อาจจะมีเหล่ามิจฉาชีพพยายามแฮกเข้ามาควบคุมโทรศัพท์ แต่ไอโฟนจะมีข้อความแจ้งเตือนมายังเครื่องว่า “ ระวัง!! ตรวจจับการใช้โปรแกรมควบคุมหน้าจอ ให้ทำการปิดเครื่อง และเปิดเครื่องอีกครั้ง เพื่อใช้งาน” ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใหญ่ หลายหน่วยงานต้องเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลัง

หลักฐานที่ผู้เสียหายแคปหน้าจอไว้

โดยในวันอังคารที่ 17 มกราคม เวลา 13.30 น. จะนำผู้เสียหายเข้าพบ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีผบช.สอท. เพื่อแจ้งความ ติดตามจับตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี รวมไปถึงหาแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ใช้โทรศัพท์ ระบบ แอนดรอยด์ และมีแอปฯธนาคาร เบื้องต้นตนแนะนำให้ลบแอปฯออกไปก่อน เพื่อความปลอดภัย

ด้าน นายกิตติกร ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา พบว่าโทรศัพท์ของตัวเองมีลักษณะผิดปกติคือ หน้าจอดับ แต่โทรศัพท์สั่น ใช้การไม่ได้ไปประมาณ 1 ชม.กว่าๆ หลังจากนั้นโทรศัพท์กลับมาใช้งานได้ตามปกติ แต่แอปฯ ของธนาคาร กลับมีการแจ้งเตือนว่า ธนาคารไม่ได้ถูกติดตั้งโดย playstore ให้ทำการลบแอปฯออก และติดตั้งใหม่

ขณะนั้นเงินยังไม่ได้หายออกไปจากบัญชี จนกระทั่งวันที่ 11 มกราคม ช่วงเวลา 10.00-12.30 น. ตนเอาโทรศัพท์ไปชาร์ทแบตเตอรี่ และนอนหลับไป ประมาณ 15.00น.ตื่นขึ้นมาดูโทรศัพท์ พบว่าเงินในบัญชีแอปฯ ธนาคาร ได้ถูกโอนออกไปเข้าบัญชีของนายจักรกฤษ ทั้งหมดจำนวน 92,709 บาท 

เตือน มิจฉาชีพแฮกข้อมูลโทรศัพท์ดูดเงินเกลี้ยงบัญชี มุ่งเป้าระบบแอนดรอยด์

ขณะที่ นายจักรกริช อินทรังษี น้องชายของ นายบุรินทร์ บัวผัน หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา กำลังนั่งคุยกับพี่ชาย ที่บ้านเพื่อวางแผนการทำงาน ส่วนโทรศัพท์ได้ชาร์ตแบตเตอรี่ทิ้งไว้ที่โต๊ะใกล้ๆกัน จู่ๆมีข้อความและสลิปจากธนาคารแจ้งเข้ามาว่า มีการโอนเงินจากแอปฯธนาคารของตน บัญชีของนายจักรกฤษ จำนวน 100,000 บาท ซึ่งตนและพี่ชายตกใจมาก เพราะไม่ได้เป็นผู้ทำธุรกรรม และ ยอดเงินที่ออกไปเป็นเงินจำนวนมาก และเป็นเงินที่ตนต้องใช้ในการทำงานต่อหลังจากนี้ด้วย

หลังจากนั้นได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.บางประอิน แต่ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร จึงเข้าร้องเรียนกับ “เพจสายไหมต้องรอด” ตอนนี้ได้รวบรวมผู้เสียหายได้มากว่า 10 ราย ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อยากให้เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เพราะหากช้าอาจจะมีผู้เสียหายมากกว่านี้

logoline