6 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 7 พฤศจิกายน เวลา 9.00 น. ศาลอาญาธนบุรี นัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.153/2565 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด (สำนักอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 4) โจทก์ร่วม น.ส.ผ่องเพชร สิริอิสสระนันท์ ที่ 1 กับพวกรวม 4 คน ฟ้อง ร.ต.อ.นพ.ภาณุรักษ์ รัตนไพศร นายแพทย์ (สบ1) กลุ่มงานศัลยกรรม รพ.ตำรวจ เป็นจำเลย ในความผิดฐานขับรถขณะเมาสุรา และโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส ขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนดและขับรถที่มีไว้เพื่อขายหรือเพื่อซ่อมในเวลาต้องห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา291, 300 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
อัยการโจทก์ระบุฟ้องพฤติการณ์ สรุปว่า เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2564 จำเลย ได้ขับรถปอร์เช่ ป้ายแดง เวลาหลังพระอาทิตย์ตกแล้วไปตาม ถ.ราชพฤกษ์ แขวงบางจาก เขตภาษีเจริญ ในขณะที่จำเลยเมาสุราโดยมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และขับรถความเร็วเกินกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่กฎหมายกำหนด แล้วได้เกิดพุ่งชนท้ายรถยนต์ฮอนด้าซีวิคได้รับความเสียหายอย่างมาก ซึ่งผู้โดยสารในรถยนต์ซีวิค 2 คน (ชาย-หญิง) ได้รับอันตรายจนถึงแก่ความตาย และหญิงที่ขับขี่รถยนต์ซีวิคคันดังกล่าวได้รับอันตรายสาหัส
นายกานต์พงศ์ สิริอิสสระนันท์ ลูกชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า คดีนี้จำเลยได้กลับคำให้การจากปฏิเสธ เป็นรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหาในชั้นศาล และจำเลยได้ขอให้ศาลตัดสินโทษสถานเบา หากจำเลยได้ชดเชยเยียวยาผู้เสียหายตามสมควร โดยอ้างว่าตนยังเป็นนักศึกษาแพทย์ ไม่มีรายได้มากมาย อีกทั้งบริษัทที่ตัวเองเป็นถือหุ้นใหญ่อยู่เป็นของพ่อแม่ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ในส่วนรถยนต์ปอร์เช่ที่ใช้ก่อเหตุ มีราคามากกว่า 7 ล้านบาท และจดทะเบียนในนามบริษัทของครอบครัวจำเลย
ตนและนางสาวผ่องเพชร น้องสาวตน (ผู้บาดเจ็บ) มองว่า ร.ต.อ.ภาณุรักษ์ ไม่มีความจริงใจ พยายามสู้คดีเมาแล้วขับและทุกข้อหาอื่น ๆ มาโดยตลอด การเยียวยาก็อ้างว่าไม่มีเงิน เป็นแค่หมอจบใหม่ ครอบครัวไม่ได้มาช่วยเหลือ และปฏิเสธทุกข้อหามาตลอด บอกว่าตัวเองจะสู้คดีเมาแล้วขับให้รอด บริษัทประกันจะได้ยอมจ่ายเงินชดเชยให้เหยื่อเพิ่ม แม้ว่าจะปรากฏฐานะชัดเจนว่าครอบครัวผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้ขัดสน แต่รับผิดชอบกับการกระทำตัวเองไม่ได้ ทางจำเลยวางเงินค่าสินไหมทดแทนสำหรับครอบครัวตนที่ศาล เป็นจำนวนเงิน 1.5 ล้านบาท สำหรับการเสียชีวิตของพ่อตน เเละ 1 ล้านบาท สำหรับผู้บาดเจ็บสาหัส ซึ่งเป็นน้องสาว รวมกันราคา 2 ชีวิต ยังไม่ถึงครึ่งของมูลค่ารถปอร์เช่ที่ผู้ก่อเหตุขับชน
จึงหวังว่าศาลจะให้ความเป็นธรรมลงโทษอย่างเหมาะสม โดยไม่มีการรอลงอาญา