svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ดร.อนันต์ เปิดเคสความน่ากลัว "โอมิครอน BA.5" แพร่ได้แม้ในพื้นที่เปิดโล่ง

04 กรกฎาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ดร.อนันต์ เปิดเคสการติดเชื้อโควิด "โอมิครอน BA.5" ของนักวิจัยชาวออสเตรเลีย คาดติดเชื้อจากการพบปะผู้คนระยะสั้นๆในพื้นที่เปิดโล่ง โดยไม่สวมหน้ากาก พร้อมเปรียบเทียบความน่ากลัวโอมิครอน BA.4 BA.5 กับโควิดสายพันธุ์เดลตาและเบตา

4 กรกฎาคม 2565 โควิด-19 โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.4 BA.5 ยังคงน่ากังวล ล่าสุด ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ หรือ ไบโอเทค สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Anan Jongkaewwattana” เปิดเผยถึงการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของโควิด-19 โอมิครอน BA.5 แม้ในพื้นที่เปิดโล่ง มีรายละเอียดดังนี้

 

Dr. Cynthia เป็น อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยาของออสเตรเลีย ทวิตโชว์ผล ATK เป็นบวก พร้อมระบุว่า ตัวเธออาศัยอยู่ที่บ้านคนเดียวกับสุนัข ไม่เคยมีกิจกรรมใดๆที่ไปพบปะผู้คนในพื้นที่ปิด (indoor) 


เธอเชื่อว่าเธอติดโควิด จากการที่เธอพาสุนัขออกไปเดินเล่นนอกบ้าน และ มีปฏิสัมพันธ์ในเวลาสั้นๆ (short conversation) เนื่องจากเป็น กิจกรรมนอกบ้านอากาศถ่ายเทสะดวก เธอไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย จู่ๆก็มีอาการและตรวจพบว่าตัวเองติดโควิดแล้ว หลังจากที่ดูแลตัวเองรอดมาจากทุก wave ที่ผ่านมา

 

ทวิตนี้ เธอต้องการบอกว่า โควิด BA.5 มีความสามารถในการแพร่กระจายที่สูงมาก กิจกรรมต่างๆภายนอกบ้านที่เชื่อว่ามีโอกาสติดยาก และ ปฏิสัมพันธ์ที่คิดว่าสั้นๆไม่น่าจะทันให้ไวรัสเข้าสู่ร่างกายได้ ก็ยังมีโอกาสรับเชื้อและเป็นโควิดได้เช่นกัน ... บริบทการแพร่เชื้อของโควิดรอบแรกๆอาจแตกต่างจากโควิดเวอร์ชั่นปัจจุบัน

 

ดร.อนันต์ เปิดเคสความน่ากลัว "โอมิครอน BA.5" แพร่ได้แม้ในพื้นที่เปิดโล่ง

พร้อมกันนี้ ดร.อนันต์ ยังได้โพสต์ ข้อมูลเรื่องความรุนแรงของ โควิด-19 "โอมิครอน" สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ระบุว่า ความรุนแรงของ BA.4 BA.5 ที่ออกมาชัดที่สุด คงเป็นข้อมูลจากประเทศแอฟริกาใต้ที่พบการระบาดของ BA.4 BA.5 ก่อนประเทศอื่นๆ 

 

โดยทีมวิจัยของแอฟริกาใต้เก็บข้อมูลเรื่องจำนวนผู้ป่วยอาการหนักที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และ ผู้ป่วยเสียชีวิต จากการระบาดในช่วง wave ต่างๆในประเทศ และ นำมาวิเคราะห์โดยนำปัจจัยเรื่องของภูมิจากการติดเชื้อในธรรมชาติ และ ภูมิจากวัคซีนที่ประชากรในประเทศมาวิเคราะห์ร่วมแล้ว พบว่า..

 

ความรุนแรงของ BA.4 และ BA.5 เมื่อเทียบกับ BA.1 ไม่ได้แตกต่างกันมาก ตัวเลขที่นำเสนอมาจะเห็นว่า ความเสี่ยงของผู้ป่วยเสียชีวิตจะมากกว่า BA.1 ประมาณ 16% ขณะที่ โควิดเดลตา (Delta) มีความเสี่ยงมากถึง 75%, โควิดเบตา (Beta) 47% และ สายพันธุ์ดั้งเดิมที่ 30%  

 

ดร.อนันต์ เปิดเคสความน่ากลัว "โอมิครอน BA.5" แพร่ได้แม้ในพื้นที่เปิดโล่ง

ในขณะที่ตัวเลขของความเสี่ยงของ อาการหนักจากการติดเชื้อเมื่อเทียบกับ BA.1 ความเสี่ยงของ BA.4 และ BA.5 อยู่ที่ 12% ขณะที่ โควิดเดลตา (Delta) สูงที่ 44% , โควิดเบตา (Beta) 28% แต่ข้อมูลของสายพันธุ์ดั้งเดิมไม่ได้ให้ไว้

 

โดยสรุปจากข้อมูลของแอฟริกาใต้ (ซึ่งอาจแตกต่างจากประเทศอื่น เนื่องจากปัจจัยหลายปัจจัยอาจไม่เหมือนกัน) พบว่า BA.4 และ BA.5 มีตัวเลขด้านความรุนแรงสูงกว่า BA.1 ไม่มาก และ น้อยกว่าระดับความรุนแรงที่พบจากการระบาดของ Delta และ Beta

 

ดร.อนันต์ เปิดเคสความน่ากลัว "โอมิครอน BA.5" แพร่ได้แม้ในพื้นที่เปิดโล่ง

 

logoline