svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ข่าวร้ายลูกหนี้ กยศ.! จ่อทบทวนเลิกเบี้ยปรับ

14 มิถุนายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

มีข่าวไม่ค่อยดีเกี่ยวกับลูกหนี้ กยศ. หรือ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เพราะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. กยศ. ฉบับแก้ไขใหม่ เตรียมทบทวนมติที่เคยโหวตไปแล้ว

โดยให้ยกเลิกเบี้ยปรับผิดนัดชำระ และลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 0.25 อีกทั้ง มีแนวทางให้กลับมาเรียกเบี้ยปรับผิดนัดชำระเช่นเดิม และคิดดอกเบี้ยเพิ่มอีกเท่าตัว โดยอ้างเรื่องวินัยการใช้เงิน

 

วานนี้การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาฯ หรือร่างแก้ไข พ.ร.บ. กยศ. ฉบับใหม่ ซึ่งเดิมกำหนดให้เป็นการประชุมนัดสุดท้าย เนื่องจากได้ลงมติประเด็นสำคัญไปหมดแล้ว เพื่อส่งกลับไปพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร วาระ 2-3 

 

ข่าวร้ายลูกหนี้ กยศ.! จ่อทบทวนเลิกเบี้ยปรับ

 

แต่ปรากฏว่าการประชุมยังไม่จบ และมีความพยายามเสนอให้ทบทวนมติที่เคยโหวตไปแล้ว คือ การยกเลิกเบี้ยปรับสำหรับลูกหนี้ผิดนัดชำระ และลดดอกเบี้ยจากเดิมร้อยละ 7.5 เหลือร้อยละ 0.25 เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การช่วยเหลือผู้ยากไร้ หรือด้อยโอกาส ในการกู้ยืมเรียน 

 

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ส.ส.รัฐบาล และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์พยายามเคลื่อนไหวเรื่องนี้ และจะนัดประชุมเพื่อลงมติอีกครั้งในวันจันทร์หน้า โดยประเด็นที่จะเสนอให้ลงมติใหม่ ก็คือ ให้มีเบี้ยปรับสำหรับลูกหนี้ผิดนัดชำระ ร้อยละ 1 และเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็นร้อยละ 0.5 

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ที่ผ่านมา ข้อมูลจาก กยศ.เอง พบว่า ตัวเลขเงินต้นค้างชำระที่ กยศ.ปล่อยกู้ไปนั้น ราวๆ 8.3 หมื่นล้านบาท แต่เบี้ยปรับและดอกเบี้ย ที่ถูกเรียกเก็บเพิ่มจากเงินต้น สูงกว่าครึ่งหนึ่งของเงินกู้ค้างชำระ 

 

ข่าวร้ายลูกหนี้ กยศ.! จ่อทบทวนเลิกเบี้ยปรับ

 

ทั้งนี้ หากนำตัวเลขมาพิจารณา  โดยจำนวนผู้กู้ยืมที่ผิดนัดชำระหนี้ กยศ. ซึ่งเป็นกลุ่มดำเนินคดี จำนวน 883,916 ราย 

 

-เงินต้นค้างชำระ ราวๆ 5 หมื่นล้านบาท 

 

-ฟ้องเรียกดอกเบี้ย ราวๆ 1.24 หมื่นล้านบาท 

 

-เรียกเบี้ยปรับ ราวๆ 1.6 หมื่นล้านบาท 

 

-รวมดอกเบี้ยและเบี้ยปรับเพิ่มจากเงินต้น ราวๆ 2.9 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 58.31 

 

กลุ่มบังคับคดี จำนวน 187,684 ราย 

 

-เงินต้นค้างชำระ ราวๆ 1.69 หมื่นล้านบาท 

 

-คิดดอกเบี้ย 2.9 พันล้านบาท 

 

-คิดเบี้ยปรับ 9.9 พันล้านบาท 

 

รวมดอกเบี้ยและเบี้ยปรับเพิ่มจากเงินต้น ราว 1.28 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 75.58 

 

รวมทั้ง 2 กลุ่ม (กลุ่มดำเนินคดี กับกลุ่มบังคับคดี ) จำนวน 1,071,600 คน แบ่งเป็น

 

-เงินต้นที่ กยศ. ให้กู้จำนวนประมาณ 6.7 หมื่นล้านบาท 

 

-เรียกดอกเบี้ยและเบี้ยปรับเพิ่มจากเงินต้น จำนวน 4.2 หมื่นล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 62.7% ของยอดเงินต้น 

 

***โดยที่บางรายมีเบี้ยปรับสูงกว่าเงินต้นด้วย

"ทวี" ชี้หายนะลูกหนี้ กยศ. - ค่าทนายพุ่ง 7 พันล้าน

 

ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ หนึ่งในกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. กยศ. บอกว่า "ดอกเบี้ยและเบี้ยปรับของ กยศ. คือ หายนะ ของผู้ยากไร้ที่เป็นลูกหนี้" เพราะดูตัวเลขแล้ว ดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ถูกดำเนินคดี และถูกบังคับคดี สูงถึงร้อยละ 62.7 ของยอดเงินต้น พูดง่ายๆ คือ ดอกกับเบี้ยปรับ แทบจะท่วมเงินต้น 

 

ข่าวร้ายลูกหนี้ กยศ.! จ่อทบทวนเลิกเบี้ยปรับ

 

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาแม้ว่าลูกหนี้หลายรายจะพยายามใช้หนี้ แต่กลับกลายเป็นแค่การตัดชำระเพียงในส่วนเบี้ยปรับ ซึ่งบางรายสูงเท่าเงินต้น หรือมากกว่าเงินต้นเท่าตัว ลูกหนี้จึงไม่อาจหลุดพ้นจากวงจรหนี้ได้ หลายรายที่ท้อ และยอมโดนยึดทรัพย์ แต่ความหายนะยังไม่จบเพียงเท่านี้ เมื่อ กยศ. อาศัยกฎหมายไล่บี้อายัดบัญชีลูกหนี้ ทำให้ลูกหนี้หลายคนที่ลำบากกันอยู่แล้ว ต้องลำบากแสนสาหัส กลายเป็นหายนะลูกหนี้ กยศ. ทำให้ไร้อนาคต เป็นการส่งต่อความยากจนอย่างเรื้อรัง และเห็นว่าการดำเนินการของ กยศ. นอกจากฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญแล้ว ยังขัดต่อเจตนารมย์ของกฎหมาย กยศ.เองอีกด้วย

 

ที่น่าคิดไปกว่านั้นก็คือ ตัวเลขการฟ้องคดี ซึ่งอาจได้เงินกลับคืนมาไม่แน่นอน อาจจะได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ตามกำลังของลูกหนี้ แต่สิ่งที่ กยศ.ต้องจ่ายแน่นอน คือ ค่าทนาย คดีละประมาณ 7,000 บาท ถ้าดำเนินคดี 1 ล้านคน (กลุ่มดำเนินคดีและบังคับคดีมากกว่า 1 ล้านคน) อย่างน้อย กยศ.ต้องจ่ายค่าทนาย 7,000 ล้านบาท คำถามคือใครได้ประโยชน์จากกระบวนการนี้

logoline