รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ หรือ “หมอธีระ” คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat” เปิดเผยความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มเด็กเล็ก ล่าสุด ไฟเซอร์ และ โมเดอร์นา กำลังยื่นขอใช้กรณีฉุกเฉินในสหรัฐ พร้อมเปิดข้อมูลการสร้างภูมิป้องกันโควิดของวัคซีนแต่ละตัว มีรายละเอียดดังนี้..
สถานการณ์โควิด-19 24 พฤษภาคม 2565 เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 435,580 คน ตายเพิ่ม 911 คน รวมแล้วติดไปรวม 527,995,713 คน เสียชีวิตรวม 6,301,342 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เกาหลีเหนือ ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 6 ใน 10 อันดับแรก และ 14 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 77.14 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 78.26
การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 67.21 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 16.57
สถานการณ์ระบาดของไทย
จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 10 ของโลก และอันดับ 5 ของเอเชีย ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก ถึงแม้สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.เป็นต้นมาจนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปก็ตาม
ทั้งนี้จำนวนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานคิดเป็น 19.2% ของการเสียชีวิตทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย
อัพเดตสถานะของวัคซีนโควิด-19 ในเด็กเล็ก 6 เดือนถึง 5 ปี (และน้อยกว่า 6 ปี)
เท่าที่ทราบมาตอนนี้ ข้อมูลจากทาง Tirrell M (CNBC) ระบุว่ามีวัคซีน 2 ชนิดที่กำลังอยู่ในกระบวนการ โดยเป็น mRNA vaccines
วัคซีน Pfizer สำหรับอายุ 6 เดือนถึง 5 ปี และวัคซีน Moderna สำหรับ 6 เดือนถึงน้อยกว่า 6 ปี
Pfizer : 3 เข็ม ขนาดเข็มละ 3 ไมโครกรัม สองเข็มแรกฉีดห่างกัน 3 สัปดาห์ และเข็มที่สามห่างจากเข็มสอง 2 เดือน (8 สัปดาห์)
Moderna : 2 เข็ม ขนาดเข็มละ 25 ไมโครกรัม ฉีดห่างกัน 4 สัปดาห์
ทั้งนี้ ผลการวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการป้องกัน ดังนี้
สถานะของการขอขึ้นทะเบียนใช้ในภาวะฉุกเฉินกับ US FDA: Pfizer กำลังจะยื่นเรื่องในสัปดาห์นี้ ส่วน Moderna กำลังอยู่ในกระบวนการทบทวน
ทั้งนี้คงต้องติดตามข่าวกันต่อไปอย่างใกล้ชิด หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเด็กเล็กๆ จะได้มีอาวุธป้องกันตัวจากโรคโควิด-19 กันในเร็ววันนี้
อัพเดต Long COVID
ทีมงานวิจัยจากสหราชอาณาจักร รายงานผลการศึกษาในกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะ Long COVID เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้เป็นโรคโควิด-19
สาระสำคัญคือ หลังผ่านพ้นช่วงแรกของการติดเชื้อโควิด-19 ไปแล้ว ณ 1-2 เดือนหลังจากนั้นกลุ่มคนที่เคยติดเชื้อมาก่อนสามารถตรวจพบการอักเสบต่อเนื่องในหลากหลายอวัยวะ (Multi-system inflammation) เช่น หัวใจ และไต
งานวิจัยนี้ตอกย้ำให้เห็นความสำคัญของการป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ เพราะติดโควิด-19 แล้วไม่จบแค่หายหรือตาย แต่เสี่ยงต่อความผิดปกติระยะยาวหรือ Long COVID ซึ่งจะส่งผลบั่นทอนคุณภาพชีวิต สมรรถนะในการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงาน และยังเป็นภาระค่าใช้จ่ายทั้งต่อผู้ป่วย ครอบครัว และประเทศ
ใส่หน้ากากนะครับ สำคัญมาก และยังจำเป็นต้องทำครับ ป้องกันทั้งโควิด-19 และฝีดาษลิงที่กำลังแพร่ระบาดทั่วโลกด้วย
อ้างอิง : Morrow, A.J., Sykes, R., McIntosh, A. et al. A multisystem, cardio-renal investigation of post-COVID-19 illness. Nat Med (2022)