21 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 8 ในนามอิสระ ได้ขึ้นรถ EV แห่หาเสียงรอบกรุงเทพ โดยเริ่มต้นจากถนนบรรทัดทอง และเข้ามายังวงเวียนใหญ่ เพื่อสักการะอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
โดยนายชัชชาติ กล่าวถึงการหาเสียงวันสุดท้าย ว่า วันนี้ (21พ.ค.) คงเป็นเพียงการย้ำเตือนประชาชน ให้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 22 พ.ค. ซึ่งส่วนตัวดีใจและมั่นใจว่าเดินมาถูกทาง เชื่อว่ามีคำตอบที่พร้อมให้กับคนกรุงเทพ ที่สามารถทำงานต่อได้
"ผมจะได้เดินต่อไปได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคนกรุงเทพพรุ่งนี้ ถ้าให้ผมทำงาน ก็พร้อมจะเดินต่อ และพาทุกคนเดินไปด้วยกัน โดยช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่สนุกและมีความประทับใจที่ได้เจอเพื่อนใหม่ และทุกคนที่มาร่วมเดินเส้นทางนี้กับผม" นายชัชชาติ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 22 พ.ค. เป็นวันสำคัญที่จะมีผลต่อกรุงเทพ ก็อยากให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งกัน เลือกใครก็ได้ เลือกคนที่ไว้ใจ คนที่เชื่อใจ แต่อยากให้ออกไปเยอะๆ เพื่อให้คนที่ได้รับเลือกตั้งได้ฉันทามติ ให้ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อประโยชน์ของคนกรุงเทพ และส่วนตนจะออกไปใช้สิทธิตั้งแต่เวลา 08.00 น.
ส่วนเรื่องของการจัดเก็บป้ายหาเสียงนั้น ก็จะพยายามรีบดำเนินการ โดนทีมงานของตนเองก็อยากได้กระเป๋า และจะนำมาใช้ในทีมงานของตนเองเป็นหลัก
สำหรับกลุ่มประชาชนที่มาให้กำลังใจจำนวนมากในช่วงหาเสียงเมื่อคืน (20พ.ค.) ที่ผ่านมา ตนมองเป็นการตื่นตัวในการเลือกตั้ง ถือเป็นสัญลักษณ์ที่ดีในระบอบประชาธิปไตย ที่เห็นคนตื่นตัวกับการเลือกตั้งพอๆ กับการตื่นตัวที่ได้เห็นดารา ซึ่งมองว่าไม่ใช่เพราะตัวของตนเอง แต่เป็นกระแสของการเลือกตั้ง และหลังเสร็จเลือกตั้ง คงไม่มีกระแสเช่นนี้แล้ว
สำหรับความมั่นใจนั้น ตนเองไม่ได้มั่นใจว่าชนะหรือแพ้ เพราะเป็นเรื่องของประชาชนที่จะตัดสินใจ ตนเคารพประชาชน แต่มั่นใจในแนวทางที่เลือกเดิน ในแนวทางที่หลายคนตั้งคำถามเรื่องความเป็นอิสระ ซึ่งวันนี้พิสูจน์แล้วว่าทำงานได้เต็มที่ เดินวันแรกยังไม่แน่ใจว่าจะไปรอดไหม แต่สุดท้ายนำคนเป็นหมื่นคนมาร่วมเดินไปด้วยกันได้ และไม่มีใครคิดเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง
"ผมไม่เคยถามในทีมว่าชอบพรรคไหน มีแนวคิดทางการเมืองใหญ่อย่างไร แต่ทุกคนมีความคิดร่วมกันคืออยากทำให้เมืองดีขึ้น นี่คือตัวอย่างของการทำเมืองที่เป็นอิสระ เราเป็นนักการเมือง แต่เราไม่เอาความขัดแย้งเข้ามาเกี่ยวข้อง นี่เป็นสิ่งที่มั่นใจว่า ผมนำได้โดยที่ไม่ต้องเป็นพรรคการเมือง" นายชัชชาติ ระบุ
ส่วนที่หลายคนมองว่าไม่มี ส.ก.ในมือจะทำงานไม่ได้นั้น ถือเป็นสิทธิของแต่ละคนที่จะสื่อสาร แต่ตนเองต้องทำงานกับส.ก.ทุกคนให้ได้ นี่เป็นเหตุผลที่ลงอิสระ ซึ่งความเป็นอิสระเป็นเรื่องที่ดี ไม่ต้องไปบริหารความขัดแย้ง มี ส.ก. 50 คน ก็ต้องทำงานกับทั้ง 50 คนได้ แต่ถ้ามีพรรคก็อาจจะเกิดความเหลื่อมล้ำ และเกิดปัญหาตามมาอีกได้