svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

โค้งสุดท้ายเดือด ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ประสานเสียงขายนโยบายหยุดความจน

20 พฤษภาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

โค้งสุดท้ายหาเสียงผู้ว่าฯ กทม. เดือด ผู้สมัครตัวเต็งส่วนใหญ่ประสานเสียง ขายนโยบายหยุดความจนคนกรุงเทพ ขณะที่ชัชชาติ มาแปลก ลงพื้นที่ 4 ย่านสำคัญแทนปราศรัยสู้เกมไม่เลือกเราเขามาแน่

สุดปลายโค้งสุดท้ายแล้วสำหรับการหาเสียงของผู้สมัครชิงตำเเหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งวันที่ 22 พ.ค. นี้ ทำให้วันนี้ (20 พ.ค.) บรรยากาศการหาเสียงของบรรดาผู้สมัครฯ ตัวเต็งมีความคึกคักเป็นพิเศษ ทั้งการตั้งเวทีปราศรัยใหญ่และลงพื้นที่หาเสียงภายใต้แคมเปญที่กำหนดไว้อย่างเข้มข้น 


เริ่มที่ในส่วนของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. ผู้สมัครฯ หมายเลข 6 ได้จัดเวทีปราศรัยใหญ่เต็มรูปเเบบที่สนามกีฬาอินดอสเตเดียมหัวหมากในเเคมเปญ #ปิดจ็อบความจน เพื่อคนกรุงเทพฯ หยุดลังเล แล้วเทให้เบอร์ 6 มีผู้เข้ามาร่วมฟังการปราศรัยนับหมื่นคน 

 

- "อัศวิน" ไม่สนคะเเนนไหลไปกับน้ำท่วม 
 

พล.ต.อ.อัศวิน ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นปราศรัยว่า โค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง ยังคงเต็มที่กับประชาชน ให้ความสำคัญกับการปราศรัย เน้นย้ำนโยบายสำคัญ ส่วนผลเลือกตั้งจะเเพ้จะชนะเตรียมใจไว้เเล้ว ถ้าได้เป็นผู้ว่าเตรียมสายงานต่อที่ค้างไว้ ถ้าไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ ก็กลับบ้านพักผ่อน เพราะตนเองลงในนามอิสระไม่มีสังกัดพรรคการเมือง

 

ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ ลงพื้นที่ บางเขน เเละฝากให้ผู้ว่าฯ คนใหม่ พูดอะไรไว้ให้ทำให้ได้ เรื่องนี้ยืนยันว่าที่ผ่านมาก็ทำตามตลอด ส่วนกรณีที่จะมีการเทคะเนน ให้นายสกลธี ภัทรธิยกุล อดีตรองผู้ว่าฯ ผู้สมัครหมายเลข 3 ก็อยู่ที่การตัดสินใจเป็นของประชาชาชน 

 

เมื่อถามว่า ในช่วงโค้งสุดท้าย ที่ฝนตกหนัก น้ำท่วม ทำให้ประชาชน นำประเด็นน้ำท่วมมาโจมตี พล.ต.อ.อัศวิน เริ่มหงุดหงิดพร้อมกับระบุว่า ฝนตกที่ผ่านมา 30 ปี ก็ท่วมทั้งนั้น ก็ยังเเก้ปัญหาไม่ได้ ไม่กลัวว่าคะเเนนจะไหลไปกลับน้ำ ก่อนที่ลูกชายจะตัดบทการให้สัมภาษณ์
 

 

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. ผู้สมัครฯ หมายเลข 6 

กองเชียร์ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. ผู้สมัครฯ หมายเลข 6 

- "อัศวิน" ขอปิดจ็อบความจนคนกรุง ลั่นทำได้ไม่เพ้อฝัน

 

จากนั้น พล.ต.อ.อัศวิน ได้ขึ้นปราศรัยระบุว่า หากเลือกอัศวิน ได้ "เอิรธ์ พงษกร" ที่เป็นคนรุ่นใหม่มาช่วยทำงาน การปราศรัยวันนี้จะเน้นเรื่องที่ยังไม่เคยมีใครพูดถึง คือ หากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. เรื่องสำคัญที่สุด คือ เรื่องปากท้องประชาชน คือการเเก้ปัญหาปากท้อง เพิ่มเงินในกระเป๋าให้คนกรุงที่ใกล้หมดจากโควิด เอานักท่องเที่ยวทั่วโลก 25 ล้านคนกลับมา นำรายได้ 1 ล้านล้านบาทกลับมา ผ่านกิจกรรมที่จะจัดในแต่ละเดือน ยืนยันนโยบายที่หาเสียงไม่ใช้เรื่องเพ้อฝัน ทำได้เเน่นอน 
 

- ไทยสร้างไทย ขอเป็นทางรอดคนกรุง พ้นความขัดแย้ง แก้ปัญหาปากท้อง
 

ส่วนที่ตลาดยิ่งเจริญ พรรคไทยสร้างไทยได้จัดเวทีปราศรัยใหญ่ บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนร่วมรับฟังการปราศรัยจากบรรดาแกนนำพรรคไทยสร้างไทย และผู้สมัคร ส.ก. เป็นจำนวนมาก โดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่า วันนี้ ได้ขนทัพใหญ่จากทุกภาคทั่วประเทศ เพื่อปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย โดยได้ประกาศร่วมสร้างประเทศไทยให้ดีที่สุดตั้งแต่วันนี้ หากเลือก นาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี เบอร์ 11 และผู้สมัคร ส.ก.พรรคไทยสร้างไทยทุกเขต เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ทางรอดประเทศ หลุดพ้นจากวิกฤตความขัดแย้งกว่า 15 ปี

 

พร้อมประกาศถึงความมุ่งมั่น ทุ่มเท ในการดูแลปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้พี่น้อง หายจน หมดหนี้ มีรายได้อย่างยั่งยืน เพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาแข็งแกร่ง ขอแรงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน มาช่วยกันสร้างพรรคไทยสร้างไทย ให้เป็นทางออกของบ้านเมือง โดยให้ความไว้วางใจ และให้พลังกับคุณหญิงสุดารัตน์ ได้ทำงานต่อในระดับประเทศตั้งแต่วันนี้ โดยเลือกทีมสุดารัตน์ ทั้ง น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าหมายเลข 11 และ ส.ก. พรรคไทยสร้างไทยทุกเขต 
 

 

เวทีปราศรัยพรรคไทยสร้างไทย

เวทีปราศรัยพรรคไทยสร้างไทย

- ชัชชาติ ลุยหาเสียง-แสดงวิสัยทัศน์ 4 ย่านสำคัญ ไม่ปราศรัยใหญ่

 

ขณะที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครฯ เบอร์ 8 ลงพื้นที่หาใน 4 ย่านสำคัญ คือที่ สยามสแคว์ ถนนสีลม เยาวราช และถนนข้าวสาร โดยเริ่มต้นที่ย่านสยามสแคว์ มีประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างมาก พร้อมระบุถึงเหตุผลที่วันนี้ไม่เลือกปราศรัยเหมือนผู้สมัครคนอื่น ๆ ว่า การจัดปราศรัยคนต้องมาหาตนเอง แต่ตนเองอยากไปหาประชาชนมากกว่า และอยากไปดูชีวิตคนจริง ๆ จึงได้ลงพื้นที่แบบดาวกระจาย 

 

ส่วนเหตุผลที่เชื่อว่าตนเองไม่ได้นอนมานั้น เพราะกระแสโพลเปลี่ยนไปมา ทุกคนตีตื้นได้ พร้อมย้ำว่า 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา มั่นใจว่า เดินมาถูกทางเป็นผู้ว่าฯ อิสระ ที่มีอาสาร่วมสมัครจำนวนมากที่เชื่อว่าจะทำให้กรุงเทพดีขึ้นได้ หากชนะการเลือกตั้ง ก็พร้อมเปิดตัวทีมงาน ซึ่งขณะนี้วางทีมงานไว้ 90% แล้ว

 

นายชัชชาติ รับว่า ที่ผ่านมากังวลการดีเบตเพราะพูดไม่เก่ง ส่วนกรณีที่ผู้สมัครบางรายบอกว่า ไม่เลือกเราชัชชาติมาแน่ มองว่า เป็นเหมือนการเชียร์ตนเอง แสดงว่าตนเองคะแนนนำ ไม่เป็นไร เป็นสิทธิเคารพกัน เพราะสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับประชาชน ทั้งนี้ ยืนยันว่า หากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็พร้อมประสานงานกับรัฐบาลเพราะเป็นอิสระ เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง หากรัฐบาลทำอะไรที่ไม่สอดคล้องกับคนกรุงเทพฯ ก็จะต้องดำเนินการ และเชื่อว่าไม่มีปัญหาหากเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง

 

 

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครฯ เบอร์ 8

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครฯ เบอร์ 8

 

 

- “สกลธี” กร้าวต่อหน้าพระเจ้าตากฯ ขอปลดล็อคทุจริตคอรัปชั่นออกจากกรุงเทพฯ 
 

ที่วงเวียนใหญ่ นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครหมายเลข 3 ได้จัดเวทีปราศรัยใหญ่ มีแฟนคลับกองเชียร์มาร่วมฟังการปราศรัย มีป้ายไฟ ป้ายสนับสนุนและส่งเสียงเชียร์นายสกลธีอย่างคึกคัก โดยนายสกลธี ระบุว่า ขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้มาอย่างท่วมท้น อีก 2 วัน ชาว กทม. จะได้ผู้ว่าคนที่ 17 ดีใจกับทุกคนด้วยหลังจากไม่ได้เลือกกันมา 9 ปี อยากให้ทุกคนออกไปใช้สิทธิ์ พร้อมเผยเหตุผลที่ลาออกจากรองผู้ว่าฯ มาลงสมัคร เพราะรู้สึกอัดอั้นที่อยากทำหลายอย่างแต่อำนาจจำกัด และหลายโครงการไม่ได้รับการตอบสนอง ทั้งที่เป็นโครงการช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้ยังมีปัญหาสังคมต่าง ๆ ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข แต่งบในส่วนนี้มีแค่ 200 ล้านบาท 

 

นายสกลธี กล่าวอีกว่า อีกปัญหาที่สำคัญคือ กรุงเทพฯ ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนสนธยา คอรัปชั่นทุกหย่อมหญ้า มีการเรียกรับสินบน การจัดซื้อจัดจ้างหลายโครงการ วันนี้ที่มาวงเวียนใหญ่ต่อหน้าพระเจ้าตากสินฯ ขอประกาศว่า ผู้ว่าฯ ชื่อสกลธีจะไม่ยอมให้ระบบคอรัปชั่นอยู่เหนือชีวิตคนกรุงเทพฯ ประสบการณ์ที่เป็นรองผู้ว่าฯ มั่นใจว่า จะสามารถบริหารกรุงเทพฯ แก้ปัญหาได้ เพราะรู้จักปัญหาดีแต่ขาดโอกาสและอำนาจเต็มในการจัดการ ผู้ว่าฯ ชื่อสกลธี จะแก้ปัญหาได้ตรงจุดและเป็นคนแรกที่หาเงินได้ใช้เงินเป็น และกระจายงบไปอย่างทุกเขตของกรุงเทพฯ อย่างเท่าเทียมกัน 

 

นายสกลธี ทิ้งท้ายว่า การลงในนามอิสระบางครั้งอาจจะเปลือง แต่ไม่ต้องตอบแทนใครนอกจากประชาชน หลายคนถามว่าเลือกคนนั้นคนนี้ทำไม ทำไมไม่รวมกันเพื่อเลือกอีกคนให้ชนะ ขอถามกลับว่า เอาอะไรมาวัดว่า คนไหนนำอยู่ ตนไม่ขออะไรมาก แต่ขอให้คนกรุงเทพฯใช้ใจดูว่า เราจะฝากผีฝากไข้ให้เขาดูแลได้ นโยบายทำได้จริง และที่สำคัญอุดมการณ์รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ขอให้เลือกคนนั้น

 

นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครหมายเลข 3

นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครหมายเลข 3
 

 

- "ดร.เอ้" ปราศรัยนัดสุดท้าย ขอโอกาสคนกรุง ฟื้น "4วิกฤติ" แบบเบ็ดเสร็จ 

 

ที่ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) พรรคประชาธิปัตย์จัดปราศัยใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. มีไฮไลท์สำคัญคือการปราศรัยของแกนนำพรรค อาทิ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ , นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และ นายสุชัชชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครหมายเลข 4 โดย นายสุชัชวีร์ ปราศัยปิดท้ายว่า ตั้งแต่ประกาศตัวลงรับสมัครเลือกตั้ง ก็เดินบนเส้นทางที่หฤโหส แต่ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี เพราะการทำงานในฐานะผู้ว่าฯ กทม.จะต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ 5 เดือนที่ผ่านมา เดินไปกว่า 1 - 2 ล้านก้าว รวม 50 เขตซึ่งพบรอยยิ้มของคนกรุงเทพที่มากับความยากลำบาก รอความหวังในการเปลี่ยนกรุงเทพฯ ครั้งสำคัญ

 

ตนไม่มีอะไรจะตอบแทนนอกจากคำมั่นสัญญาที่จะทำหน้าที่นี้อย่างดีที่สุด สาเหตุที่เลือกเวทีปราศยหัวลำโพง เพราะเป็นถือเป็น 1 ในเอเซียและเป็นหมุดหมายสำคัญของประเทศไทยเมื่อ 126 ปีที่แล้วในการพัฒนาประเทศ และไทยถือเป็นประเทศแรกของเอเซียที่มีหัวรถจักรรถไฟใช้ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจะต้องใช้คนที่เป็นมืออาชีพในการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น ขณะเดียวกันที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ก่อตั้งรถไฟฟ้าใต้ดินสายแรกของประเทศคือสายเฉลิมรัชมงคล ซึ่งปรากฎชื่อของสุชัชวีร์ผู้ร่วมริเริ่มรวมอยู่ในนั้น 

 

ฉะนั้นสถานที่แห่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการ “เปลี่ยนกรุงเทพ:เราทำได้” กทม.เป็นเมืองแห่งศักยภาพขาดแต่เพียงผู้ที่จะเป็นผู้นำ ฉะนั้นตนจึงประกาศร่วมกับทีมส.ก.ต่อประชาชนว่าเราจะต้องเปลี่ยนกรุงเทพเป็นเมืองสวัสดิการที่ทันสมัยของอาเซียนให้ได้

 

วันนี้ต้องยอมรับว่า กทม.กำลังวิกฤต 4 เรื่อง คือ 1.วิกฤติจากภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำท่วมซึ่งเกิดปัญหาเรื้อรังมาหลายปี  2.กทม.เสียโอกาสจากการเข้าถึงโลกออนไลน์และโรคอินเตอร์เน็ต ซึ่งเราขาดผู้นำที่มีความรู้ความสามารถ 3.เรื่องการศึกษา หลังโควิดเป็นต้นไปเราจะพบปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเพิ่มขึ้น หากไม่ได้ผู้ว่าที่มีความรู้ความเข้าใจในการผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจังและที่ผ่านมายังไม่มีผู้สมัครผู้ว่าฯคนใดที่มีการพูดเรื่องนี้อย่างชัดเจน 4.สังคมผู้สูงอายุ 

 

ฉะนั้นจากทั้ง 4 ข้อ เราจะเลือกผู้ว่าที่อิงตามกระแสการเมืองอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องเลือกผู้ที่มีความรู้ความสามารถและแก้ปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ “ด้วยเหตุผลนี้ในวันที่ 22 พ.ค. นี้ คนกรุงเทพจึงต้องเลือก ดร.เอ้ หมายเลข 4 

 

 

นายสุชัชชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครหมายเลข 4

 

 

 

 

logoline