แม้คดีการเสียชีวิตของดาราสาว "แตงโม นิดา" คดีหลัก ทางพนักงานสอบสวนจะได้มีการสรุปสำนวน และส่งให้อัยการพิจารณาส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด 6 ราย ไปแล้ว แต่ในส่วนคดีของบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องและพยายามจะเกี่ยวข้องทั้งหลงาน กำลังเริ่มมีการไล่แจ้งความฟ้องร้องกันอุตลุด หนึ่งในคดีเหล่านี้ คือกรณีที่วานนี้ (4 พ.ค.) ตำรวจชุดทำคดี "แตงโม" แจ้งความเอาผิด นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในหลายกระทง หลังพาดพิงกล่าวหาสร้างพยานหลักฐานเท็จเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหา (อ่านข่าว)
ล่าสุดวันนี้ (5 พ.ค.) ที่ สภ.เมืองหนองคาย นายอัจฉริยะ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกลับ คณะพนักงานสอบสวนคดีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา ในฐานความผิด แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา เป็นเหตุให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 172 และรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 173
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า การมาแจ้งความในวันนี้ เนื่องจากเมื่อวานนี้ ขณะที่ตนมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ จ.หนองคาย ในช่วงเวลา ประมาณ 22.30 น. ได้รับทราบข่าวจากเว็บข่าวออนไลน์แห่งหนึ่งว่า พนักงานสอบสวนชื่อ พ.ต.ท.พชต วงศ์ประยุต ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนกรณีการเสียชีวิตของ แตงโม ได้มอบรับมอบอำนาจจากคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1
ให้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับตนในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน จากกรณีเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา ตนเองได้เปิดแถลงข่าวกรณี แตงโม ตกเรือเสียชีวิต โดยเปิดแถลงข่าวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และเนื้อหามีการกล่าวพาดพิงพนักงานสืบสวนสอบสวนซึ่งตนยืนยันว่า ข้อความที่ได้แถลงต่อสื่อมวลชน ไปนั้น เป็นความจริง และยังต้องมีการพิสูจน์ในชั้นการพิจารณาของศาลว่า เป็นข้อมูลที่เป็นเท็จหรือไม่อย่างไร
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.134 วรรคสองที่บัญญัติไว้ว่า “จะต้องมีหลักฐานตามสมควรว่าผู้นั้นน่าจะได้กระทำผิดตามข้อหานั้น” จึงจะแจ้งข้อหาให้ผู้ต้องหารับทราบ และวรรคสี่ที่บัญญัติไว้ว่า “พนักงานสอบสวนต้องให้โอกาสผู้ต้องหาที่จะแก้ข้อหาและที่จะแสดงข้อเท็จจริงอันเป็นประโยชน์แก่ตนได้” เห็นชัดได้ว่า การกระทำของ พ.ต.ท.พชต วงศ์ประยุต และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนผู้มอบอำนาจ ย่อมรู้อย่างชัดแจ้งว่า ข้อมูลที่ตนได้แถลงข่าวไปนั้น ยังไม่มีการพิสูจน์ในชั้นการพิจารณาของศาลว่า เป็นจริงหรือเท็จอย่างไร
“พฤติการณ์ดังกล่าวย่อมเป็น การแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา เป็นเหตุให้ ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 172 และรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 173 จึงมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” นายอัจฉริยะ กล่าว
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า แม้เหตุการณ์ที่ถูกแจ้งความนั้น เกิดในพื้นที่ สน.ประชาชื่น แต่ก็ยืนยันจะร้องทุกข์แจ้งความดำเนินคดี ที่ สภ.เมืองหนองคาย และขอให้พนักงานสอบสวนส่งเรื่องการแจ้งความร้องทุกข์ของตนเองดังกล่าว ไปยังท้องที่เกิดเหตุตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อไป
"ผมไม่รู้สึกกังวลกับการถูกแจ้งความ เพราะเป็นการเดินหน้าตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตให้กับแตงโม และเพื่อคืนความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิต และเดินหน้าแถลงข่าวเพื่อเปิดหลักฐานสำคัญในวันที่ 9 พ.ค. นี้ อย่างแน่นอน"