svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"กอร์ปศักดิ์"แนะรัฐใช้เงินกู้อย่างมีสติ ชี้ขยับเพดานหนี้กระทบเชื่อมั่น

05 พฤษภาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ"ทวีตแนะรัฐต้องสร้างเครดิตการคลังประเทศให้ดี ก่อนกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ชี้ขยับเพดานหนี้อาจทำลายความเชื่อมั่นภาคศก.

5 พฤษภาคม 2565 นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์และนโยบายพรรคกล้า ได้ทวีตข้อความระบุเปรียบเทียบศักยภาพในการกู้เงินจากสถาบันการเงินของเอกชน และรัฐบาล ว่า เอกชนจะกู้เงินจากสถาบันการเงินได้มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับตัวเลขรายได้ เพราะรายได้ทำหน้าที่เป็นเพดานในการกู้เงิน แต่รัฐบาลกู้เงินง่ายกว่าเอกชน เนื่องจากเครดิตประเทศดี จะกู้มากน้อยแค่ไหนไม่เป็นปัญหา แต่หากรัฐบาลกู้อย่างงมงาย ขาดวินัยทางการเงินการคลัง ประเทศมีสิทธิ์ล่มสลายได้เหมือนกัน

 

ทั้งนี้ ประเทศไทย มีพ.ร.บ.วินัยทางการเงินการคลัง 2561 กำกับการกู้เงินของรัฐไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง กฎหมายให้มีการกำหนดสัดส่วนการกู้และภาระหนี้ ถ้าเป็นหนี้สาธารณะ กำหนดเพดานที่ 60% ของจีดีพี ส่วนภาระหนี้ของรัฐในแต่ละปี ต้องไม่เกิน 35% ของรายได้ในปีนั้นๆ ประกาศเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2561 และเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2564 มีการแก้ไขตัวเลขเพดานการกู้เงินที่นับเป็นหนี้สาธรณะ จาก 60% เป็น 70% ของจีดีพี

อย่างไรก็ตาม สาเหตุจากการกู้เงินจนทะลุเพดานของรัฐบาล ถ้าไม่ปรับเพดานใหม่ จะเป็นการกู้ทะลุเพดาน ผิดกฎหมาย แก้แล้วจึงไม่ผิด หนี้สาธารณะของรัฐบาลเมื่อเดือนกันยายน 2561 อยู่ที่ 41.70% และสูงขึ้นติดเพดานเมื่อเดือนกันยายน 2564 ที่ 58.15% เพดานกำหนดไว้ที่ 60% ของจีดีพี รัฐไม่มีทางออก รายได้ไม่พอ ต้องกู้เพิ่ม แต่เมื่อกู้เพิ่ม ตัวเลขจะทะลุเพดาน การแก้ปัญหาของรัฐบาล คือ ขยับเพดานให้สูงขึ้นจาก 60% เป็น 70%

 

สำหรับภาระหนี้รายปีของรัฐบาล น่าเป็นห่วงเหมือนกัน จากเมื่อเดือนกันยายน 2561 ภาระหนี้อยู่แค่ 19.17% พอมาถึงเดือนกันยายน 2564 ตัวเลขสูงก้าวกระโดดไปที่ 32.27 % เพดานกำหนดไว้ที่ 35% ของรายได้ ห่างเพดานไม่มาก ไม่แน่ใจว่าจะขยับเพดานตัวนี้อีกหรือไม่ ต้องจับตาดูกันต่อไป ไม่แปลกที่กรณีวิกฤติอาจต้องขยับเพดานเงินกู้ แต่ที่แปลก คือ กฎหมายให้ฝ่ายบริหารมีอำนาจแก้ไขเพดาน ไม่ต้องผ่านสภา

"รัฐบาล ประหยัด รู้และเข้าใจถึงการจัดลำดับความสำคัญในการใช้เงินงบประมาณ โดยต้องกู้อย่างมีวินัย ซึ่งสามารถบริหารจัดการได้ แต่เมื่อมีการขยับเพดานเงินกู้ อาจทำให้ภาคเศรษฐกิจเสียความเชื่อมั่นในการบริหารงานด้านเศรษฐกิจการเงินการคลัง" นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว

logoline