เป็นช่วงที่วงการผ้าเหลือง มีเรื่องร้อนระอุไม่เว้นวัน ล่าสุดเป็นกรณีวัดใหม่พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ติดตั้งป้ายไวนิลขนาดใหญ่ โดยมีเนื้อหาต่อต้านห้าม "หมอปลา" จีระพันธ์ เพชรขาว หรือมือปราบสัมภเวสี เข้ามาสร้างความวุ่นวายในเขตวัด
ป้ายดังกล่าว ระบุข้อความว่า “ร่วมปลุกระแสห้ามหมอปลา เข้าสร้างความวุ่นวายในเขตวัด ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายใช้อำนาจอะไร แค่อ้างว่ามีคนร้องเรียนก็บุกเข้าค้นวัดได้ ทุกซอกทุกมุม โดยไม่ต้องมีหมายค้น ถ้าแน่จริง มีคนแจ้งว่า บ้านนี้ค้ายา บ้านนั้นค้าของเถื่อน บ้านนี้ให้ที่หลบซ่อนมือปืน กล้าเข้าค้นเหมือนเข้าค้นวัดมั้ย”
วัดเป็นนิติบุคคล เจ้าอาวาสเป็นเจ้าพนักงาน ทุกวัดควรขึ้นป้ายต่อต้าน “หมอปลา” ฝ่าฝืนเข้าไปทำแบบที่เคยทำในวัดไหน ให้ฟ้องศาลทุกวัด ผิดถูกไปว่ากันศาล ไม่เช่นนั้น “หมอปลา” จะย่ำยีพระตลอดไป กล้าไปทุกวัด ก็ต้องกล้าไปขึ้นศาลทุกคดีนะ
ซึ่งช่วงแรก “พระบุญมา สุจินโน” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดใหม่พรหมพิราม พยายามแก้ตัวว่า ไม่รู้ว่าบุคคลใดนำป้ายไวนิลขนาดใหญ่มาติดตั้ง ที่มีการปลดลงแล้ว กระทั่งมีแชตหลุดออกมาว่า “พระครูธีรศาส กิตจาทร” เจ้าอาวาสวัด เป็นผู้สั่งทำป้าย จนยอมแถลงข่าวยอมรับว่า เป็นผู้สั่งทำป้ายจริง ราคา 1,800 บาทนั้น
วันนี้ (5 พ.ค.) “หมอปลา” เดินทางไปที่วัดใหม่พรหมพิราม พร้อมกลุ่มชาวบ้าน เนื่องจากติดใจสงสัยว่า “พระครูธีรศาส กิตจาทร” เจ้าอาวาส ชอบแอบดื่มเหล้า และกินหมูกระทะภายในวัดจริงหรือไม่ เพราะเมื่อ 3 ปีก่อน เคยถูกจับได้มาแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งเจ้าอาวาสขอโอกาสแก้ตัวมาแล้ว
โดยระหว่างที่มีการซักถาม ทางเจ้าอาวาสวัดเสียงอ่อย ยอมรับว่า ดื่มเหล้าและกินหมูกระทะในวัดจริง ก่อเหตุลักษณะนี้มานาน 3 ปีแล้ว เบื้องต้นจะขอเวลา 3 วัน ให้เป็นมติของคณะสงฆ์ แล้วจะสึกออกไปเอง ไม่ต้องให้มาขับไล่
“มีการดื่มเหล้าจริง แต่ไม่ได้บ่อย แต่จะดื่มเฉพาะเวลาเครียดเท่านั้น โดยยอมรับว่าเพิ่งดื่มไปเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนเรื่องหมูกระทะ ยอมรับว่าเคยมีการโทรสั่งมากินจริง และเลี้ยงพระลูกวัดรูปอื่นด้วย”
ส่วนเรื่องสั่งทำป้าย ต้องขออภัย “หมอปลา” และทางญาติโยมด้วย ถือว่าทำความผิด ก็ได้ทำการปลงอาบัติไปแล้ว ซึ่งระหว่างสั่งทำได้คิดน้อยไปหน่อย โดยขอยืนยันว่า ข้อความทั้งหมดในป้าย ไม่ได้คิดเอง
ขณะที่ “หมอปลา” มอบเงิน 1,800 บาท ให้เป็นค่าป้ายที่ทางเจ้าอาวาส มีการจ้างให้จัดทำก่อนหน้านี้ พร้อมยืนยันว่า ทุกครั้ง หากจะเข้าไปที่วัดแห่งไหน จะขออนุญาตทางวัดก่อน ซึ่งเกือบทุกทีจะอนุญาตให้เข้า ยกเว้นวัดเพียงแห่งเดียว คือ วัดหญ้าแพรก
ด้านตัวแทนชาวบ้าน บอกว่า วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ โดยมีชาวบ้านรุ่นต่อรุ่นมาทำบุญ จนเมื่อ 3 ปีก่อน มาทราบเรื่องเจ้าอาวาสประพฤติตนไม่เหมาะสม เจ้าอาวาสขอโอกาสญาติโยมอีกครั้ง ชาวบ้านก็ให้โอกาส แต่คนก็เริ่มห่างวัด มาทำบุญน้อยลง แล้วตอนนี้ยังทำอีก
เบื้องต้นชาวบ้านจะไม่ขับไล่ เพราะเห็นว่าแก่แล้ว เป็นพระที่บวชมานานถึง 35 ปี แต่ก็ให้ท่านไปพิจารณาตนเองว่า สมควรที่จะสึกแล้วหรือไม่ แต่หากท่านยืนยันไม่สึก จะใช้เพียงการปลงอาบัติเพียงอย่างเดียว ก็เกรงว่าจากนี้คงไม่ศรัทธา และคงไม่มีใครเข้ามาทำบุญที่วัดแห่งนี้อีก