"วิษณุ"รับใช้สูตรไหนคิดปาร์ตี้ลิสต์ก็วุ่นโยนศาลรธน.ตีความ

2 พฤษภาคม 2565 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ด้านกฎหมาย กล่าวถึงการคิดสัดส่วนคะแนนต่อ ส.ส. ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่จะต้องนำคะแนนมาหาร 100 และ 500 มีข้อดีและข้อเสียต่างกันอย่างไร ว่า ตนไม่ทราบ​ ทุกอย่างอยู่ที่ความเห็นของสภาฯ ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าหากใช้คะแนน 500 คำนวณจะขัดต่อรัฐธรรมนูญนั้น ส่วนตัวมองว่าจะใช้จำนวนเท่าใดมาหาร ต่างก็ขัดต่อรัฐธรรมนูญทั้งนั้น ซึ่งจะต้องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ  

ขณะที่พรรคเล็กที่มีความต้องการให้หารด้วยจำนวน 500 แต่อีกฝ่ายออกมาระบุว่าหากใช้ 500 คะแนนในการคำนวณ จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งตนได้ยินข่าวแว่วๆว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญ โดยทางออกในเบื้องต้น ต้องให้คณะกรรมาธิการเป็นผู้ตัดสิน แล้วนำกลับเข้าไปพิจารณายังที่ประชุมสภาอีกครั้งหนึ่งว่ามีความเห็นอย่างไร

ส่วนที่มีการพูดว่ากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับแล้วเสร็จในเดือนพ.ค. และประกาศใช้ในเดือนมิ.ย.นั้น นายวิษณุ ระบุว่า ไม่ใช่ เนื่องจากขั้นตอนของกฎหมายลูก จะไม่เหมือนกฎหมายอื่น เพราะเมื่อสภาพิจารณาแล้วเสร็จ จะต้องส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งใน 15 วัน และกกต. จะต้องตอบกลับใน 10 วัน ซึ่งรวมแล้วเกือบ 1 เดือน

อย่างไรก็ตาม หาก กกต. ไม่เห็นด้วยกับมาตราใด สภาจะต้องแก้ตามที่กกต. ให้ความเห็นชอบมา แต่หากมีการถกเถียงแต่ไม่มีการแก้ไข ต้องนำไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยและตีความ จึงจะสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายได้ โดยจะใช้เวลา 90 วัน ดังนั้น กฎหมายจะประกาศใช้ไม่ใช่ในเดือนมิ.ย.ที่มีการพูดกัน

ทั้งนี้ หากกฎหมายไม่ผ่านสามารถประกาศยุบสภาได้ แต่จะเกิดความยุ่ง เนื่องจากไม่มีกฎหมายบังคับใช้  ซึ่งตนได้พูดมาตั้งแต่ต้นว่าจะเกิดปัญหา และจะกลับไปใช้กฎหมายเดิมไม่ได้ เนื่องจากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบังคับใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยอมรับว่ามีการพูดว่ามีวิธีแก้ แต่ตนนั้นคิดไม่ออก

"จะออกมาในรูปแบบของพ.ร.ก.หรือไม่ ผมไม่ทราบ บางคนบอกให้ กกต. ออกประกาศหรือระเบียบ บางคนบอกให้ออก พ.ร.ก. หลายสำนักก็ว่ากันไป ขออย่าไปคิด เพราะถ้าเกิดปัญหาสภาจะตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างใดจะต้องเผชิญกับศาลรัฐธรรมนูญ แต่การยุบสภา ทำได้ตลอดเวลา ยกเว้นยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ" นายวิษณุ กล่าว