svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

พนักงานทวิตเตอร์ระส่ำ มัสก์เทกโอเวอร์

26 เมษายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ข่าวหักมุมที่ว่าทวิตเตอร์ตัดสินใจปิดดีลกับอีลอน มัสก์ ขายกิจการให้ในมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์ และเตรียมตัวแปรรูปจากบริษัทมหาชนเป็นเอกชน สร้างความระส่ำระสายให้พนักงานที่ได้รับแจ้งว่า เวลาแห่งความมั่นคงในหน้าที่การงานของพวกเขาเหลืออยู่เพียง 6 เดือนเท่านั้น

"ดีล 44,000 ล้านดอลลาร์" ระหว่าง "ทวิตเตอร์" เครือข่ายสังคมออนไลน์ ประเภทไมโครบล็อกกับ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก ผู้ก่อตั้งและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ Tesla กับ SpaceX กลายเป็นเรื่องหักมุมอย่างมโหฬาร และสร้างความระส่ำระสายภายในทวิตเตอร์ เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางคณะกรรมการบริหารของทวิตเตอร์ เพิ่งใช้กลยุทธ์ "วางยาพิษ" (Poison Pill) ในการสกัดไม่ให้มัสก์ที่ตอนนั้นถือหุ้น 9.2% เข้าซื้อกิจการได้สำเร็จ แต่ดีลล่าสุดมัสก์เสนอซื้อหุ้นทวิตเตอร์ในราคาหุ้นละ 54.20 ดอลลาร์ (1,800 บาท) เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของแพลตฟอร์มที่ก่อตั้งมานาน 16 ปี และมีผู้ติดตามมากถึง 84 ล้านคน 

 

ในการประชุมฉุกเฉินเมื่อเวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันจันทร์ ปารัก อักราวัล CEO ได้แจ้งพนักงานว่างานของพวกเขายังมั่นคง ไม่มีการเลย์ออฟ จนกว่ามัสก์จะเข้ามาเทกโอเวอร์ในอีก 6 เดือนข้างหน้า และรับประกันเรื่องสิทธิ์ในการซื้อ-ขายหุ้น (stock options) กับผลประโยชน์อื่น ๆ ส่วนเบรท เทย์เลอร์ ประธานคณะกรรมการบริหาร แจ้งว่าคณะกรรมการได้ดำเนินกระบวนการที่รอบคอบและครอบคลุม ในการประเมินข้อเสนอของมัสก์ ขณะที่แชตภายในที่เผยแพร่ทางออนไลน์ชี้ว่า ปฏิกิริยาของพนักงานต่อการเทกโอเวอร์ของมัสก์เต็มไปด้วยความกังวล บางคนตั้งคำถามว่าพวกเขายังทำงานที่บ้านได้หรือต้องกลับไปทำงานที่สำนักงาน

 

อีลอน มัสก์

ในการประชุมฉุกเฉินเมื่อเวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันจันทร์ ปารัก อักราวัล CEO ได้แจ้งพนักงานว่างานของพวกเขายังมั่นคง ไม่มีการเลย์ออฟจนกว่ามัสก์จะเข้ามาเทกโอเวอร์ในอีก 6 เดือนข้างหน้า และรับประกันเรื่องสิทธิ์ในการซื้อ-ขายหุ้น (stock options) กับผลประโยชน์อื่น ๆ ส่วนเบรท เทย์เลอร์ ประธานคณะกรรมการบริหาร แจ้งว่าคณะกรรมการได้ดำเนินกระบวนการที่รอบคอบและครอบคลุม ในการประเมินข้อเสนอของมัสก์ ขณะที่แชตภายในที่เผยแพร่ทางออนไลน์ชี้ว่า ปฏิกิริยาของพนักงานต่อการเทกโอเวอร์ของมัสก์เต็มไปด้วยความกังวล บางคนตั้งคำถามว่าพวกเขายังทำงานที่บ้านได้หรือต้องกลับไปทำงานที่สำนักงาน

 

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทวิตเตอร์ได้ระงับการเปลี่ยนแปลงแผนให้บริการไปจนถึงวันศุกร์ เพราะเกรงว่าพนักงานที่ต่อต้านอาจทำอะไรบางอย่างหรือสร้างความวุ่นวาย และยังมีประเด็นที่น่าสนใจด้วยว่า กรณีคนที่ถูกแบนตลอดชีวิตอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ จะมีโอกาสกลับไปใช้แพลตฟอร์มนี้ได้อีกหรือไม่ และแม้ทรัมป์จะให้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ว่าเขาไม่คิดว่าจะได้กลับไปใช้งานอีก แต่อักราวัลได้เปิดช่องว่างว่าคนที่จะตัดสินใจเรื่องนี้คือ มัสก์

 

Twitter : elonmusk

 

Twitter : elonmusk

 

Twitter : elonmusk

 

เชื่อว่ามัสก์จะทำในสิ่งที่เขาต้องการก่อนหน้านี้ คือการปกป้องเสรีภาพในการพูดทางออนไลน์ เอาชนะสแปม บอต เพื่อมวลมนุษย์ที่แท้จริง โดยการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ด้วยคุณสมบัติใหม่ และสร้างอัลกอริธึมแบบ "open source" เพื่อเพิ่มความไว้วางใจ แต่โดยภาพรวมความเปลี่ยนแปลงของทวิตเตอร์ภายใต้มัสก์จะมีดังนี้ 

 

พนักงานทวิตเตอร์ระส่ำ มัสก์เทกโอเวอร์

 

พนักงานทวิตเตอร์ระส่ำ มัสก์เทกโอเวอร์

- นำทวิตเตอร์ออกจากตลาดหุ้น
- ตัดเงินผลประโยชน์ที่ผู้บริหารชุดเก่าจะได้รับ
- ให้เสรีภาพการแสดงออก การพูด (Free speech) 
- จัดการพวกบอตสแปมคริปโต (Crypto Spam Bot) ที่ส่งลิงก์ลวงผู้ใช้ทวิตเตอร์ให้กดเข้าไปดู ทำให้ถูกแฮ็คข้อมูลส่วนตัวหรือขโมยแอคเคานต์ 
- ใช้เหรียญคริปโตที่ชื่อว่าโดชคอยน์ (Dogecoin) ในการจ่ายเงินค่าสมาชิกทวิตเตอร์บลู (Twitter Blue) เพื่อใช้ฟีเจอร์ที่พิเศษ 
- เพิ่มฟีจเจอร์ Undo Tweet ในการลบหรือแก้ไขข้อความ 

 

The New York Times รายงานอ้างคำพูดของอักราวัลระหว่างการประชุมภายในว่า "สิ่งสำคัญคือ ต้องยอมรับว่าพวกคุณทุกคนมีความรู้สึกที่แตกต่างกันมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น บางคนกังวล บางคนตื่นเต้นและบางคนอาจรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ผมรู้ว่ามันจะส่งผลกระทบต่อพวกคุณทุกคน" ..."มันเป็นวันที่สะเทือนใจและผมก็แค่อยากจะรับรู้" ด้าน Bloomberg รายงานว่าก่อนเข้าประชุมได้มีการขอให้พนักงานส่งคำถาม ซึ่งส่วนใหญ่อยากรู้ว่าคนที่ทำงานที่บ้านจะต้องกลับเข้าสำนักงานหรือไม่ และคนที่ห่วงสิทธิ์ในหุ้นที่พวกเขาถืออยู่ แต่ข้อความที่แชตกันเป็นการภายในและหลุดออกไปทางออนไลน์ แรงกว่านั้น โดยพนักงานคนหนึ่งบอกว่า รู้สึกเหมือนกำลังจะอาเจียนและไม่อยากทำงานให้บริษัทที่อีลอน มัสก์ เป็นเจ้าของ อีกคนบอกว่า เกลียดมัสก์ ทำไมเขาต้องมาอยากได้บริษัทนี้ด้วย และอีกคนบอกว่า มัสก์ทำตัวเป็นเด็กเอาแต่ใจและสิ่งที่เขากำลังทำคือการก่อกวน เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับนโยบายและสิ่งที่พวกเขาทำอยู่ สิ่งที่เขาพูดเกี่ยวกับอัลกอริธึมของเรา มันบ้าคลั่งมาก 

 

แต่สำหรับมัสก์ดูเหมือนจะล่วงรู้ว่าจะเกิดกระแสต่อต้านภายใน ทวีตของเขาเมื่อวันที่ 17 เมษายน เป็นชื่อเพลง "Love Me Tender" (อ่อนโยนกับผมด้วย) ส่วนล่าสุดเมื่อวันที่ 24 เมษายน เขาทวีตว่า Moving on...

 

Twitter : elonmusk

 

Twitter : elonmusk

logoline