ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวในคลิปวิดีโอที่โพสต์เมื่อคืนวันจันทร์ว่า "เราบอกได้ตอนนี้ว่า กองกำลังร้สเซียเริ่มการสู้รบในดอนบาสตามที่พวกเขาเตรียมตัวมานานแล้ว" และก่อนหน้านั้น แอนดรี เยอร์มัก เสนาธิการทหารแจ้งผู้นำยูเครนว่า "ปฏิบัติการระยะที่ 2 ของสงครามเริ่มขึ้นแล้ว" และให้ความมั่นใจแก่ชาวยูเครนว่า กองทัพของประเทศสามารถต้านทหารรัสเซียได้
กองทัพรัสเซียยกระดับการโจมตีอย่างหนักหน่วงทั้งในเขตโดเนตสก์ และเขตลูฮันสก์ รวมถึงเมืองคาร์คีฟ, มารินกา, ครามาทอร์สก์, มิโคเลฟ และซาปอริซเซีย ขณะเดียวกันยังโจมตีเป้าหมายในภาคอื่นของประเทศ รวมถึง กรุงเคียฟ และเมืองลวีฟ โดยเมืองลวีฟที่อยู่ทางภาคตะวันตกใกล้พรมแดนโปแลนด์มีรายงานผู้เสียชีวิตครั้งแรกรวม 7 ราย
ส่วนกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า ตลอดคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาสามารถทำลายเป้าหมายทางทหาร 315 เป้าหมาย ซึ่งรวมถึง กองบัญชาการทหาร คลังเชื้อเพลิง คลังแสง และยุทโธปกรณ์
ขณะที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนของยูเครน รายงานว่า มีพลเรือนเสียชีวิต และบาดเจ็บรวม 4,890 รายในยูเครนนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.
และโอเลกซานเดอร์ คูบราคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงโครงสร้างพื้นฐาน เปิดเผยว่า ปฏิบัติการของรัสเซียได้สร้างความเสียหายหรือทำลายโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศมากถึง 30% หรือคิดเป็นมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงสะพานข้ามทางกว่า 300 แห่งบนถนน ถนนรวมระยะทางกว่า 8,000 กม. และสะพานข้ามทางรถไฟหลายสิบแห่ง ซึ่งอาจใช้เวลา 2 ปีเพื่อสร้างใหม่
ด้านทำเนียบขาวของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เครื่องบิน 4 ลำได้จัดส่งความช่วยเหลือทางทหารไปถึงยูเครนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ และยุทโธปกรณ์ล็อตที่ 5 กำลังจะจัดส่งไปเพิ่ม นอกจากนี้เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า กองทัพเตรียมเริ่มฝึกฝนทหารยูเครนในการใช้ระบบปืนใหญ่ ฮาวอิตเซอร์ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า