ด่วน! "จุรินทร์" ตั้งสอบปม "ปริญญ์" ขืนใจเหยื่อสาว ลาออก ปธ.องค์กรสตรี 2 ชุด

ถือเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศช่วงเกือบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ภายหลัง “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง เปิดข้อมูลเหยื่อสาว 14 ราย ถูกนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ล่อลวงไปข่มขืน และกระทำอนาจาร โดยก่อเหตุลักษณะนี้มานานหลายปีนั้น

ล่าสุดเวลา 09.20 น.วันนี้ (19 เม.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวยืนยันว่า ไม่เพิกเฉยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง และต้องขอถือโอกาสนี้ กราบขอโทษต่อเหตุการณ์นี้

“ในฐานะหัวหน้าพรรค ผมมีส่วนสำคัญในการนำนายปริญญ์เข้ามา แม้ว่ากระบวนการต้องผ่านการพิจารณาของกรรมการบริหารพรรค และการดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ต้องผ่านการลงคะแนนให้ความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ก็ตาม หรือแม้แต่กรณีที่เราไม่อาจทราบล่วงหน้าว่า จะเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา ในยุคที่ผมเป็นหัวหน้าพรรค หนีไม่พ้นที่จะต้องรับผิดชอบ”

ขอยืนยันว่า พรรคจะไม่เข้าไปปกป้อง หรือแทรกแซงใดๆ ในกระบวนการยุติธรรม เพราะกระบวนการยุติธรรม จะทำหน้าที่ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยขอย้ำจุดยืนของพรรค คือ 1.ต่อต้านการคุกคามทางเพศ 2.ต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อเด็กสตรีและบุคคลในครอบครัว รวมทั้งต่อต้านการเลือกปฏิบัติ เพราะเหตุแห่งความแตกต่างระหว่างเพศ และพรรคจะไม่เพิกเฉย โดยจะดำเนินการดังต่อไปนี้

1.ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีที่เกิดขั้น แม้ว่านายปริญญ์ จะลาออกไปแล้ว โดยคณะกรรมการชุดนี้ มีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กำหนดมาตรการป้องกัน การแก้ไขปัญหา และเยียวยาเหยื่อ รวมถึงตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในพรรค จากที่กำหนดไว้อยู่แล้ว 21 ข้อ โดยมอบหมายนางรัชดา ธนาดิเรก เป็นประธานคณะทำงานตรวจสอบ

2.ตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ กรณีการโพสต์ในไลน์ของพรรค โดยจะมอบหมายให้นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ เป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้

“ส่วนตัวผมเป็นประธานองค์ 2 ชุดในรัฐบาล ทั้งประธานคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และประธานคณะกรรมการระดับชาติส่งเสริมสถานภาพสตรี โดยผมจะลาออกจากประธานคณะกรรมการ 2 ชุดนี้ และต้องขอโทษท่านนายกฯ ที่ไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ซึ่งตั้งแต่มารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค เหตุการณ์ครั้งนี้รุนแรงมาก ”

ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสสังคมเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบลาออกนั้น นายจุรินทร์ บอกว่า "ถ้าลาออกแล้วทิ้งปัญหาไว้ ก็กลายเป็นมีปัญหา นี่คือความไม่รับผิดชอบ จึงคิดกันแล้วว่า เมื่อเกิดปัญหาในยุคเรา ก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องเข้าไปแก้ปัญหาให้ลุล่วง ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไว้ให้คนรุ่นต่อไป หรือให้คนอื่นต้องรับผิดชอบ" 

ส่วนเก้าอี้หัวหน้าพรรคสั่นคลอนหรือไม่ ตนเองไม่ขอตอบ หรือเรื่องที่เกิดขึ้นถูกโยงเป็นเกมการเมืองนั้น ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ซึ่งไม่ขอให้ความเห็นกับคำถามนี้

กรณีที่ผู้เสียหายอ้างชื่อนายศุภชัย พาณิชภักดิ์ ว่าจะเข้ามาเคลียร์คดีนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ความมั่นใจว่านายศุภชัย ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม หรือใช้อำนาจใดๆ และส่วนตัวก็ไม่ได้คุยกับนายศุภชัย เพราะท่านไม่สะดวกที่จะรับโทรศัพท์

"เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่สามารถตอบได้ว่า จะกระทบต่อการเลือกตั้งใหญ่หรือไม่ แต่เมื่อตนเป็นหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารชุดนี้ยังทำหน้าที่ ก็ต้องขับเคลื่อนพรรคให้เดินไปข้างหน้า มีปัญหาก็ต้องแก้ไข นำพรรคไปสู่การเลือกตั้งอย่างสุดความสามารถ หวังว่าในอนาคต จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีขึ้นจากประชาชน" 

เมื่อถามว่า เคยมีคนเตือนเรื่องพฤติกรรมของนายปริญญ์ก่อนหน้านี้ นายจุรินทร์ ตอบว่า ไม่ขอไม่พาดพิงใคร และไม่ขอย้อนไปพูดอีก พร้อมย้ำว่า ตนมีส่วนสำคัญในการพานายปริญญ์เข้ามา ก็ถือเป็นบทเรียนต่อไป ส่วนคลิปเสียงที่พาดพิงว่ามีพรรคการเมืองอื่นอยู่เบื้องหลังนั้น ขอยืนยันว่าไม่ใช่ความเห็นของพรรค

ถามว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครของพรรคคะแนนตกนั้น นายจุรินทร์ ระบุว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก.เป็นหน้าที่ของรองผู้อำนวยการพรรค และทีมงาน รวมถึงตัวผู้สมัครที่จะดำเนินการ เพราะผู้ที่มีตำแหน่งทางการเมือง หรือเป็นข้าราชการการเมือง จะเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ได้ แต่มั่นใจว่าทุกคนทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว ส่วนผลโพลเป็นกระจกสะท้อนด้านบวกและลบ