เหยื่อปริญญ์โผล่แจ้งความแล้ว 14 คน ให้การพฤติกรรมนักการเมืองใหญ่ตรงกัน

ความคืบหน้าคดีที่ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูกหญิงสาวแจ้งความข้อหา ล่อลวงไปข่มขืน และกระทำอนาจาร ซึ่งวันนี้ (18 เม.ย.) ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดังได้พาผู้เสียหาย 2 รายไปแจ้งความเอาผิด นายปริญญ์  เพิ่มเติมที่ สน.ลุมพินี ซึ่งถือเป็นผู้เสียหายรายที่ 7 - 8 (อ่านข่าว)

 

ล่าสุด เมื่อเวลา 17.00 น. ผู้เสียหายคนที่ 9 เดินทางมายัง สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด กับ นายปริญญ์  โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน จากนั้นเวลา 18.00 น. ผู้เสียหายคนที่ 10 เดินทางมายัง สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด กับ นายปริญญ์ เช่นกัน 
 

 

โดยผู้เสียหายรายที่ 10 ระบุว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องไม่รู้จะแจ้งความอย่างไร ที่ไหน ได้ติดตามข่าวเห็นผู้เสียหาย ทนายเริ่มเดินทางมาแจ้งความ ตัวเองที่ถูกกระทำจึงรู้สึกว่าต้องการได้รับการ ชดเชยสิ่งที่ผ่านมาเพราะหลังเกิดเรื่องรู้สึกอาย และอดทนอยู่อย่างเงียบ ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเริ่มจากหลังงานบรรยาย นักการเมืองคนดังกล่าวให้รายชื่อติดต่อ และบอกว่ายินดีให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ ตนเองที่สนใจจะทำธุรกิจจึงติดต่อไป

 

เมื่อเดินทางไปถึงห้องทำงานที่เกิดเหตุนักการเมืองคนดังกล่าว พยายามเชิญชวนให้ดื่มแอลกอฮอลล์ โดยอ้างว่าจะทำให้การพูดคุยราบรื่น แต่เมื่อตนดื่มสักระยะรู้สึกแปลก แต่ถูกบังคับให้ดื่มต่อจนดื่มหมดแก้วจากนั้นจึงเริ่มถูกลวนลามจับมือ แขน และล่วงละเมิดทางเพศ จนตื่นมาเช้าวันรุ่งขึ้นและพบว่า ตนนอนอยู่ข้างป้อม รปภ.

 

หลังเกิดเหตุการณ์ นักการเมืองคนดังกล่าวโทรมาพูดคุยตามปกติ แต่ตนตัดสินใจไม่รับสายและปิดกั้นช่องทางการติดต่อทั้งหมด สุดท้ายนี้อยากฟังไปถึงผู้กระทำให้ขอให้ถูกดำเนินคดีถึงที่สุด ชดใช้กรรมในคุก ส่วนตัวรู้สึกชยะแขยงทุกครั้งที่เห็นชายคนดังกล่าวทำหน้าที่วิทยากร โดยเหตุการ์ณเกิดตั้งแต่ ปี 59

 

ต่อมาในเวลา 18.20 น. ผู้เสียหายคนที่ 11 เดินทางมายัง สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด กับ นายปริญญ์ พร้อมระบุว่า รู้จักกับนักการเมืองดังกล่าว ตั้งแต่ปี 56 เหตุเกิดปี 57 โดยถูกล่อลวงไปที่พักเพราะชายคนดังกล่าวอ้างว่าเป็นสำนักงาน ตนยืนยันว่าจะเจอที่สาธารณะ แต่ชายคนดังกล่าวยืนยันว่าต้องกลับไปเอาของ

 

เมื่อผู้เสียหายตามไปจึงพบว่าเป็นห้องนอน นักการเมืองปิดประตูห้องและเริ่มลวนลามขณะนั้น ตัวเองอ้างเหตุผลทุกอย่าง และพยายามขัดชืน แต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายเมื่อถูกขมขื่นสำเร็จ ตนบอกว่าจะแจ้งความ แต่นักการเมืองรายนี้บอกว่า ใครจะช่วยใคร จะเชื่อและรู้ไหมว่าพ่อตนเป็นใคร ยืนยันว่าผู้เสียหายทุกคนไม่รู้จักกันมาก่อนแต่พูดตรงกัน หลังเกิดเหตุรู้สึกด้อยค่าตนเองแต่วันนี้รู้สึกปลดล็อกความรู้สึก ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดเรื่องป่วยเป็นซึมเศร้า แต่ตัวเองไม่แปลกใจที่ผู้ก่อเหตุจะปฏิเสธ

 

และในเวลา 18.40 น. ผู้เสียหายคนที่ 12 เดินทางมายัง สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด กับ นายปริญญ์ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ต่อมาเวลา 18.50 น. ผู้เสียหายคนที่ 13 เดินทางมายัง สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด กับ นายปริญญ์ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน และล่าสุด เวลา 18.55 น. ผู้เสียหายคนที่ 14 เดินทางมายัง สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด กับ นายปริญญ์ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

 

 

 

ด้าน พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยว่า ผู้เสียหายที่เข้ามาพบตำรวจวันนี้ 7 ราย ในที่นี่เป็นพยาน 2 ราย มีเจ้าของคลิปเสียง และอีกรายที่ถูกกระทำที่อังกฤษ ทั้ง 5 รายที่เดินทางมาวันนี้ตำรวจรับแจ้งความแล้วทั้งหมด

 

โดยหลังจากนี้ต้องมาพิจารณาเรื่องอายุความ เป็นลำดับต่อไปเพราะเหตุที่ขึ้นก่อนปี 62 บทลงโทษในคดีความข่มขืนจะต่างไปเพราะบัญญัติกฎหมายคดีข่มขืนหลังจากปี 62 การข่มขืนจะยอมความไม่ได้ 

 

พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวว่า ผู้ให้การทั้งหมดวันนี้จะมีการสอบปากคำรวมเป็นพยานในคดีอื่นด้วย โดยคดีใดที่ขาดอายุความ จะดำเนินคดีไม่ได้ แต่คำให้การของผู้เสียหายนั้นจะประกอบเป็นพยานในคดีอื่น 

 

สำหรับการตรวจค้นคอนโดย่านสุขุมวิท ที่มีผู้เสียหายอ้างว่า ถูกล่อลวงไปอนาจาร - ข่มขืน จากการตรวจค้นที่เกิดเหตุพบว่า มีสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ตำรวจได้วาดผังของห้องพักนั้นไว้ ทั้งนี้การลงพื้นที่มาจากการยื่นคำร้องขอหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ มีผู้มีสิทธิประกอบด้วยตำรวจ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ผู้แทนผู้ต้องหา และ ผู้แทนนิติคอนโด 

 

ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายต้องการไปร่วมชี้จุด ขณะนี้ไม่สามารถทำได้ เพราะเกรงว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาอาจไม่ได้รับความเป็นธรรมและจะมีผลต่อรูปคดี โดยวันนี้ได้รับรายงานว่าทนายความของผู้ถูกกล่าวหายื่นคำร้องขอให้ศาลกำหนดมาตรการการตรวจค้นพื้นที่เกิดเหตุของตำรวจ