svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ทิ้งไว้แต่ความสูญเสียเมื่อรัสเซียถอยร่น

04 เมษายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เสียหายวายวอดทั้งคน สัตว์ สิ่งของเมื่อเข้าสู่เดือนที่ 2 ของสงครามรัสเซีย-ยูเครน การถอยร่นของกองทัพรัสเซีย ทำให้เห็นภาพของความเสียหายของทั้งสองฝ่ายเด่นชัดและน่าเศร้าสลด และหนึ่งในความเสียหายและทำลายความภาคภูมิในของชาวยูเครนก็คือซากเครื่องบินยักษ์มรียา

สภาพของเครื่องบิน Antonov An-225 Mriya จากการการโจมตีของรัสเซีย

อันโตนอฟ AN-225 เครื่องบินขนาดใหญ่และน้ำหนักมากที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบแฟน 6 ตัว มีล้อมากถึง 32 ล้อ ความยาวปีก 2 ข้างรวมกัน 88 เมตร ซึ่งนับว่ากว้างที่สุดในบรรดาเครื่องบินทุกชนิด และสามารถบรรทุกน้ำหนักสิ่งของได้มากสุดถึง 250 ตัน ถือเป็นความภูมิใจของชาวยูเครนที่แสดงถึงความสามารถทำโครงการใหญ่ๆได้ แต่เครื่องบิน 1 เดียวในโลกลำนี้กลายเป็นเป้าหมายแรกๆในการโจมตีของรัสเซีย

 

"หมดหนทางที่จะฟื้นฟูขึ้นมาได้สำหรับมรียา" นี่เป็นคำพูดของดิมิโทร อันโตนอฟนักบินของอันโตนอฟ AN-225 หรือรู้จักกันในชื่อมรีรยาหรือมาเรียที่แปลว่าความฝันหลังจากเห็นสภาพของเครื่องบินโดยเฉพาะห้องนักบินที่ไม่เหลืออะไรเลยหลังโดนรัสเซียถล่มสนามบินในเมืองฮอสโตเมล ชานกรุงเคียฟในวันที่ 2 ของสงคราม

สภาพของเครื่องบิน Antonov An-225 Mriya จากการการโจมตีของรัสเซีย

 

นักบินกล่าวว่าเป็นความเศร้าที่ยากจะอธิบายทั้งที่เมื่อ 2 เดือนที่แล้วยังขับเครื่องบินลำนี้ซึ่งคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเที่ยวบินสุดท้าย

 

ก่อนหน้านี่้บริษัทผู้ผลิตเคยประเมินว่าการซ่อมแซมมรีย่าอาจต้องใช้งบสูงกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 99,000 ล้านบาท

 

ทหารยูเครนนายหนึ่งซึ่งร่วมยึดคืนพื้นที่กล่าวว่ารัสเซียทำลายมรียาเพราะไม่มีใครรู้การออกแบบเครื่องบินลำนี้ยกเว้นชาวยูเครนและไม่มีใครสามารถสร้างมรียาได้ยกเว้นชาวยูเครน

 

สภาพของเครื่องบิน Antonov An-225 Mriya จากการการโจมตีของรัสเซีย

 

ไม่ห่างจากมรีย่าคือเมืองบูชาซึ่งเป็นเมืองด่านหน้าก่อนถึงฮอสโตเมลที่กองทัพรัสเซียเพิ่งจะถอนทัพกลับไป ทิ้งไว้แต่ความสูญเสียอย่างเช่นซากศพของชาวเมืองนับสิบคนที่ถูกทิ้งไว้ตามข้างถนนบางคนถูกมัดมือไขว้หลัง นายกเทศมนตรีของเมืองต้องฝังศพหมู่ชาวเมืองถึง 280 คน  ชาวเมืองบางคนบอกว่าเพิ่งได้กินขนมปังเป็นครั้งแรกในรอบ 38 วัน สภาพของเมืองถูกทำลายย่อยยับ ไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปา

ฝังศพหมู่ชาวเมือง

เมืองบูชา

ขณะเดียวกันท้องถนนในเมืองบูชาก็กลายเป็นหนึ่งในสุสานของกองทัพรัสเซียที่หวังจะปิดล้อมและยึดกรุงเคียฟแต่ถูกทหารยูเครนซุ่มโจมตีอย่างหนัก ซากรถถังและยานยนต์หุ้มเกราะเกลื่อนถนน จนรัสเซียต้องถอยร่นกลับไปเมื่อปลายสัปดาห์โดยให้เหตุผลว่าต้องการกลับไปยึดภาคตะวันออกของยูเครน

Bayraktar

ถนนที่เป็นเส้นตรงและแคบในเมืองบูชาเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการซุ่มโจมตี มีผู้เห็นเหตุการณ์ยืนยันว่าชาวยูเครนใช้ Bayraktar ซึ่งเป็นโดรนที่ซื้อจากตุรกีในการทำลายขบวนรถถถังและยานยนต์หุ้มเกราะของรัสเซียโดยมีอาสาสมัครรักษาชายแดนยูเครนร่วมด้วย  ชาวเมืองบางคนบอกว่าเห็นทหารเกณฑ์รัสเซียอายุ 18-20 ปีหลายคนวิงวอนว่าอย่าส่งตัวพวกเขาให้กองทัพรัสเซียหรือยูเครน เป็นภาพที่น่าสงสารสำหรับคนวัยนี้ที่ควรจะมีชีวิตอีกยาวไกล

 

จรวดและกระสุนที่ยังไม่ระเบิดกระจัดกระจายอยู่ทั่ว และในหลายเมืองที่กองทัพรัสเซียถอยร่นออกไปยังมีการทิ้งกับระเบิดไว้เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะกับระเบิดรถถังรวมถึงระเบิดสังหารที่มีการซ่อนเร้นไว้ใต้ศพ เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการกู้ระเบิด

 

เช่นเดียวกับเมืองเชอร์นิฮิฟ (Chernihiv) เมืองทางภาคเหนือของยูเครนที่ทหารรัสเซียเพิ่งถอนตัวออกไปโดยมอสโกให้เหตุผลว่าเพื่อสร้างความไว้วางใจว่ารัสเซียจะลดการโจมตี แต่ฝ่ายยูเครนและนักวิเคราะห์มองไปในทางเดียวกันว่าไม่ใช่การแสดงเจตน์จำนงค์ที่ดีแต่เป็นเพราะรัสเซียสูญเสียอย่างหนักจึงต้องถอยร่นกลับไปตั้งหลัก

เมืองเชอร์นิฮิฟ

เมืองเชอร์นิฮิฟ (Chernihiv)

 

มาคซิม เลวิน (Maksim Levin 1981-2022) ช่างภาพชาวยูเครน

ส่วนนักข่าวที่ไปปักหลักรายงานข่าวสงครามรัสเซีย-ยูเครนก็ต้องเสียชีวิตไปอีกคนคือมาคซิม เลวิน (Maksim Levin 1981-2022) ช่างภาพชาวยูเครนที่ทำงานให้กับรอยเตอร์สและเว็บไซด์ข่าวของยูเครนมายาวนานเกือบ 10 ปี ทิ้งภรรยาและลูก 4 คนไว้เบื้องหลัง

 

ศพของเขาถูกพบที่หมู่บ้าน ฮูตา เมซีเฮิร์ซกา (Huta Mezhyhirska) ทางเหนือของกรุงเคียฟซึ่งถูกถล่มอย่างหนัก เลวินถูกกระสุนปืนเล็กของทหารรัสเซีย 2 นัด

 

สงครามยังดำเนินต่อไป แม้รัสเซียจะแถลงว่าเป้าหมายต่อไปคือภาคตะวันออกของยูเครนโดยเฉพาะภูมิภาคดอนบาส แต่เมื่อวานนี้ยังโจมตีคลังน้ำมันในเมืองโอเดซ่าริมฝั่งทะเลดำของยูเครนโดยฝ่ายรัสเซียแถลงว่าคลังน้ำมันแห่งนี้เป็นแหล่งเชื้อเพลิงกองทัพ และอ้างว่ายังสามารถทำลายคลังแสงของยูเครนในอีก 2 เมืองด้วย

 

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมารัสเซียก็อ้างว่าเฮลิคอปเตอร์ของยูเครน 2 ลำได้โจมตีคลังน้ำมันของรัสเซียในเมืองเบลโกรอต (Belgorod) ห่างจากชายแดนยูเครนประมาณ 40 กิโลเมตร แต่กองทัพยูเครนปฏิเสธเรื่องนี้พร้อมยืนยันยูเครนไม่เคยโจมตีเป้าหมายในรัสเซีย เท็จจริงอย่างไรไม่รู้ แต่รู้กันว่าเมื่อต่างฝ่ายต่างใช้ยุทธการตาต่อตา ฟันต่อฟันมันก็บรรลัยครับ

ความเสียหายใกล้เมือง KYIV

ทิ้งไว้แต่ความสูญเสียเมื่อรัสเซียถอยร่น

logoline