สหรัฐฯ เชื่อรัสเซียหวังเผด็จศึกในดอนบาสให้ทัน 9 พ.ค.

เมืองโอเดสซา เมืองท่าทางภาคใต้ของยูเครน ซึ่งเตรียมพร้อมรับมือการโจมตีของรัสเซียมานานหลายสัปดาห์ เผชิญการโจมตีด้วยขีปนาวุธหลายลูกช่วงเช้ามืดวันนี้ (3 เม.ย.) โดยโรงกลั่นน้ำมันและคลังเชื้อเพลิง 3 แห่งถูกทำลาย

การโจมตีครั้งนี้มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เตือนว่า รัสเซียกำลังปรับยุทธศาสตร์ไปมุ่งโจมตีภาคตะวันออกและภาคใต้แทน และรัสเซียก็ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้แล้วว่า ปฏิบัติการทางทหารระยะแรกเสร็จสิ้นแล้ว และจะมุ่งเน้นการปลดปล่อยภูมิภาคดอนบาสทางภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งประกอบด้วยโดเนตสก์ และลูฮันสก์ ที่แยกตัวจากยูเครน และรัสเซียเพิ่งให้การรับรองสถานะรัฐอิสระ

เมืองโอเดสซาเป็นฐานทัพสำคัญของกองทัพเรือยูเครนในบริเวณชายฝั่งทะเลดำ และเป็นเป้าหมายที่รัสเซียต้องการยึด เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อไปยังทรานส์เนียสเตรีย ซึ่งเป็นดินแดนกบฏฝักใฝ่รัสเซียในประเทศมอลโดวา และมีทหารรัสเซียประจำการอยู่

แต่นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า เป็นเรื่องยากที่รัสเซียจะยึดเมืองโอเดสซาจากทางทะเลโดยไม่ตั้งฐานทัพบนแผ่นดินก่อน และสุสานโอเดสซา ที่เป็นอุโมงค์ใต้ดินยาว 2,500 กม.กำลังถูกดัดแปลงเพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากการโจมตีทางอากาศ 

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคน ที่รับทราบการประเมินข่าวกรองล่าสุดของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า หลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งเดือน ทหารภาคพื้นดินรัสเซียยังไม่สามารถยึดพื้นที่สำคัญที่พยายามโจมตีอย่างหนักหน่วงได้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เจอแรงกดดันที่ต้องแสดงให้เห็นว่า รัสเซียประสบชัยชนะ และภาคตะวันออกของยูเครนจึงเป็นพื้นที่ที่รัสเซียเชื่อว่าจะสามารถยึดได้รวดเร็ว และคาดว่า ปูตินมุ่งหวังให้สามารถประกาศชัยชนะของสงครามในวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งเป็นวันแห่งชัยชนะของรัสเซีย 

วันที่ 9 พ.ค. เป็นวันที่รัสเซียเฉลิมฉลองชัยชนะเหนือกองกำลังนาซีที่ประกาศยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยในวันหยุดทางราชการนี้ รัสเซียจะจัดพิธีสวนสนามของเหล่าทหารและอาวุทยุทโธปกรณ์อย่างยิ่งใหญ่ที่บริเวณจตุรัสแดง ซึ่งอยู่ด้านหน้าของทำเนียบเครมลิน

แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และยุโรป มองว่า แม้รัสเซียมีการเฉลิมฉลองในวันนั้น แต่ชัยชนะที่แท้จริงในสงครามยูเครนยังมีหนทางอีกยาวไกล  เส้นตายของรัสเซียจะเป็นอย่างไร ก็ไม่อาจเปลี่ยนความจริงในสนามรบได้ว่า รัสเซียต้องเตรียมพร้อมเผชิญการสู้รบที่ยืดเยื้อในยูเครน
 

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้รัสเซียต้องรีบยุติสงคราม เพราะเมื่อถึงเดือน พ.ค. ฤดูหนาวก็จะสิ้นสุดลง พื้นดินที่เคยแข็งด้วยหิมะและนำแข็งจะอ่อนตัว ซึ่งจะทำให้ยานพาหนะน้ำหนักมากของกองทัพรัสเซียจะเคลื่อนที่ได้ลำบาก 

นอกจากนี้สหรัฐฯ ประเมินว่า ปูตินกำลังเตรียมตั้งผู้บัญชาการสูงสุดในสงคราม เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายของปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ หลังจากทหารหน่วยต่าง ๆของรัสเซียที่ปฏิบัติการในแต่ละพื้นที่ของยูเครน ไม่ได้ทำงานประสานกันและแย่งชิงทรัพยากรกันอีกด้วย