รอสคอมนัดเซอร์ ซึ่งเป็นสำนักงานกำกับดูแลการสื่อสาร เทคโนโลยีสารสนเทศ และสื่อสารมวลชนของรัสเซียโพสต์แถลงการณ์ในเวบไซต์และโซเชียลมีเดียเมื่อวันอาทิตย์ เตือนให้สื่อของรัสเซียตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องละเว้นการเผยแพร่คำสัมภาษณ์ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของรัสเซีย แต่ไม่ได้ให้เหตุผลใด ๆ และระบุด้วยว่า เริ่มสอบสวนสื่อที่ได้สัมภาษณ์ผู้นำยูเครนแล้ว
คำเตือนนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากผู้นำยูเครนให้สัมภาษณ์ผ่านซูมนาน 90 นาทีแก่ผู้สื่อข่าวจากรัสเซีย 4 คน ซึ่งมาจากเวบไซต์ข่าว หนังสือพิมพ์ และทีวีอิสระ ที่อยู่ในและนอกรัสเซียเมื่อวันอาทิตย์
พวกเขาโพสคำสัมภาษณ์ในโซเชียลมีเดียหลังเสร็จการสัมภาษณ์ และสัญญาว่าจะเผยแพร่ในสื่อภายหลัง แต่เมื่อมีคำเตือนของรอสคอมนัดเซอร์ออกมา สื่อที่อยู่นอก รัสเซียก็เผยแพร่คำสัมภาษณ์ ขณะที่สื่อที่ตั้งอยู่ในรัสเซียเลือกไม่เผยแพร่
ขณะนี้สื่อรัสเซียอยู่ภายใต้กฎหมายใหม่ ที่เพิ่งประกาศบังคับใช้ในช่วงต้นเดือนนี้ หลังรัสเซียบุกยูเครน โดยกฎหมายห้ามการเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารในยูเครนด้วยเนื้อหาที่แตกต่างจากการแถลงของทำเนียบเครมลิน และอาจมีโทษจำคุกถึง 15 ปีหากฝ่าฝืนกฎหมาย
วิดีโอคำสัมภาษณ์มีผู้เข้าชมกว่า 1 ล้านครั้งภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการโพสต์ สะท้อนภาพที่แตกต่างจากที่ชาวรัสเซียเห็นในทีวีรัสเซีย ผู้นำยูเครนให้สัมภาษณ์ด้วยภาษารัสเซีย และกล่าวหาว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เป็นฝ่ายสร้างความเกลียดชังระหว่างรัสเซียและยูเครน และกองทัพรัสเซียไม่คำนึงถึงชีวิตของชาวยูเครนและชาวรัสเซีย โดยระบุว่า กองทัพรัสเซียไม่ยอมเก็บศพทหารของตัวเองกลับไป
คำสัมภาษณ์สวนทางการกับการรายงานของทางการรัสเซีย ที่กล่าวหาว่า ยูเครนยิงถล่มเมืองของตัวเอง และใส่ร้ายว่ากองทัพรัสเซียทำให้พลเมืองยูเครนเสียชีวิต และทำลายบ้านเมืองย่อยยับ
ต่อมาเซเลนสกีโพสต์คลิปในวันอาทิตย์ ระบุว่า ทางการรัสเซียตื่นกลัวกับคลิปที่เขาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวรัสเซีย และหน่วยงานเซนเซอร์สื่อของรัสเซียมีคำขู่ไม่ให้เผยแพร่ ซึ่งเขาบอกว่าเป็นเรื่องน่าขัน ถ้าไม่ใช่เรื่องน่าสลดใจ พร้อมทั้งวิจารณ์ว่า รัสเซียทำลายเสรีภาพการแสดงความเห็นในประเทศของตัวเอง และทำลายประเทศเพื่อนบ้าน และเมื่อพวกเขากลัวเรื่องคำสัมภาษณ์ดังกล่าว แสดงว่า พวกเขาตระหนักว่า พลเมืองของตัวเองกำลังตั้งคำภามเกี่ยวกับการบริหารประเทศของรัฐบาล