เป็นประเด็นที่ชาวเน็ตพูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก กรณีอุบัติเหตุน่ากลัวที่เกิดขึ้นภายในปั๊มน้ำมันแห่งนี้หนึ่ง บริเวณปากซอยบางขุนเทียน 14 ที่จู่ ๆ มีรถเก๋งป้ายแดงคันหนึ่งขับพุ่งเข้าปั๊มน้ำมันชนใส่รถที่กำลังจอดเติมน้ำมันอยู่ และเด็กปั๊มถูกลูกหลงจนต้องเสียขาไป 1 ข้าง
ซึ่งภายหลังพบว่า คนที่ขับรถคันดังกล่าวเป็นหญิงสาว และที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ รถคันที่เกิดเหตุเพิ่งถอยมาได้เพียง 1 วันเท่านั้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ชาวเน็ตวิจารณ์คนขับอย่างหนักว่า ควรมีรถเมื่อพร้อม , ขับรถไม่แข็งก็ยังไม่ควรขับ, และส่วนใหญ่เห็นใจสงสารเด็กปั๊ม ที่มาโดนลูกหลงจนต้องเสียขาไป
ล่าสุดวันนี้ (25 มี.ค.) นายธนวัฒน์ แฟนของหญิงสาวคนที่คนขับรถเก๋ง ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3 สรุปได้ดังนี้ว่า แฟนสาวเหยียบผิด จะเหยียบเบรกแต่ไปเหยียบคันเร่ง , แฟนสาวมีใบขับขี่ถูกต้อง แต่ไม่ค่อยได้ขับรถ , รถมีประกันชั้น 1 ตนและแฟนสาวพร้อมรับผิดชอบทั้งหมด , เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแฟนสาวตกใจและเสียใจมาก สภาพจิตใจย่ำแย่ ร้องไห้ตลอด กินไม่ได้นอนไม่หลับ ต้องใช้ยานอนหลับ , จะไปเยี่ยมเด็กปั๊มที่บาดเจ็บเสียขาไปในวันอาทิตย์นี้
ขณะที่ นายสาธร ม่วงศิริ เจ้าของปั๊มที่เกิดเหตุ กล่าวถึงกรณีเด็กปั๊มที่เป็นหญิงชาวเมียนมาที่เสียขาไปว่า ตอนผ่าตัดขาเจ้าตัวไม่ได้สติ พอตื่นมาไม่มีขารู้สึกช็อกมาก ทำให้ร้องไห้ ไม่กินข้าว โดยเผยว่า
“พนักงานคนนี้ทำงานกับตนมาเป็น 10 ปี เข้าเมืองถูกต้องตามกฎหมาย
พร้อมเผยสิ่งที่กังวลหลังการรักษาว่า จะต้องเลือกงานที่เหมาะสมกับเขา ก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้อยู่รอดให้ได้ แต่ประเด็นที่จะมีปัญหา ต้องขอร้องทางคู่กรณีต้องช่วยดูแลด้วย จะอาศัยประกันอย่างเดียวไม่ได้ เพราะขาเขาหายไป
“หลังจากจบจากโรงพยาบาลแล้ว ก็ต้องมีการทำขาเทียมอีก ไม่ใช่เที่ยวเดียวจบ วันนี้ไปฟังหมอมา ต้องทำขาทดลองก่อน ต้องให้เนื้อเข้าสักพักถึงทำของจริงได้ ค่าใช้จ่ายไม่ได้เที่ยวเดียวจบ อย่างไรเราก็ต้องดูแลให้เต็มที่ ก็ติดต่อไปทาง ปตท.โออาร์ ก็จะช่วยดูแลเขาด้วย
ทั้งนี้แม้จะมีคำชี้แจงจากฝั่งผู้ก่อเหตุออกมาและเจ้าของปั๊ม แต่ชาวเน็ตก็ยังคงมีอารมณ์ในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง โดยย้ำว่า ได้ใบขับขี่มาได้อย่างไร , ขับไม่แข็งอย่าเพิ่งออกนอกสาธารณะ , ขับไม่เป็นสติไม่มี ตกใจเหยียบมิด ปล่อยมือปิดหูปิดตาแน้นอน พุ่งสะขนาดนี้ไม่น่ามีรถขับ , ขับได้และขับเป็น ความหมายมันต่างกัน , และส่วนมากเรียกร้องให้รับผิดชอบชีวิตของผู้เสียหายด้วย ฯลฯ
ขอบคุณข้อมูลจากรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ทางช่อง 3