svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ใจเอ็งได้! หนุ่มเวียดนามพายเรือยาง 2,000 กม. จากภูเก็ตไปหาเมียที่อินเดีย

23 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ใจเอ็งได้ ! หนุ่มเวียดนาม พายเรือยาง 2,000 กม. จากภูเก็ตไปหาเมียที่อินเดีย รอดชีวิตหวุดหวิดหลังทหารเรือช่วยไว้ทันกลางทะเลอันดันมัน หลังพายเรือตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค. เหลืออาหารประทังชีวิตเพียงเล็กน้อย ชาวเน็ตลั่นถ้าใจรักอินเดียก็แค่ปากซอย

เป็นประเด็นฮือในโซเชียลอย่างมาก กรณีที่เพจทัพเรือภาคที่ ๓ ได้โพสต์ข่าวการช่วยเหลือหนุ่มเวียดนามคนหนึ่ง ที่กำลังพายเรือยางเป่าลมกลางทะเลอันดามัน ห่างฝั่ง 80 กม. เพื่อไปหาภรรยาที่ประเทศอินเดีย ที่อยู่ห่างออกไป 2,000 กม. 

 

โดยเพจทัพเรือภาคที่ ๓ ระบุว่า "ถึงมหาสมุทรจะกว้างใหญ่เพียงใด ก็ไม่อาจขวางกั้น..รักแท้ของชายผู้นี้

 

ตะลึง!! พบชายเวียดนามพายเรือยางเป่าลมกลางทะเลอันดามัน ห่างฝั่ง 80 กม. แจ้งว่าจะพายไปหาภรรยาที่ประเทศอินเดีย

 

วันนี้ (23 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.50 น. ทัพเรือภาคที่ 3 โดย หน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ เกาะสิมิลัน (นรภ.ทร.เกาะสิมิลัน) ได้รับแจ้ง จากนายปัญญา เพิ่มวงศ์นิติกร นายท้ายเรือประมงชื่อ ต.ครองเพชรรุ่งเรืองว่า พบบุคคลไม่ทราบสัญชาติ เพศชาย อยู่บนเรือยางเป่าลมสีเหลือง-ฟ้า ขนาดประมาณความยาวประมาณ 2.5 ม. บนเรือมีถังน้ำดื่ม และกระเป๋าเดินทาง ลอยเรืออยู่ในทะเลลำเดียว บริเวณพิกัด Lat 8°36.6997 N Long 97°32.9237 E ทิศตะวันตกของเกาะสิมิลันประมาณ 14 กม. หรือ ห่างฝั่งจังหวัดพังงา กว่า 80 กม. เกรงว่าจะได้รับอันตรายจากคลื่นลมแรงในทะเล เพราะอยู่ห่างจากฝั่งมาก

 

จนท.นรภ.ทร.ก.สิมิลัน ร่วมกับ จนท.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ออกเดินทางด้วยเรือยางพื้นแข็ง เข้าตรวจสอบตามตำบลที่ได้รับแจ้ง โดยในเวลา 12.45 น. ได้เดินทางมาถึงเรือประมง ต.ครองเพชรรุ่งเรือง และพบว่าลูกเรือกำลังช่วยเหลือบุคคลดังกล่าวด้วยการผูกเรือยางเป่าลมไว้ที่บริเวณท้ายเรือ 
 

 

หนุ่มเวียดนามพายเรือยาง 2,000 กม. จากภูเก็ตไปหาเมียที่อินเดีย

หนุ่มเวียดนามพายเรือยาง 2,000 กม. จากภูเก็ตไปหาเมียที่อินเดีย

หนุ่มเวียดนามพายเรือยาง 2,000 กม. จากภูเก็ตไปหาเมียที่อินเดีย

หนุ่มเวียดนามพายเรือยาง 2,000 กม. จากภูเก็ตไปหาเมียที่อินเดีย

จากการเข้าตรวจสอบทราบชื่อ Mr.HO HOANG HUNG อายุ 37 ปี สัญชาติเวียดนาม สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ในเรือมีอาหารแห้งประเภทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปประมาณ 10 ห่อ และถังบรรจุน้ำดื่มเหลือเพียงเล็กน้อย

 

ทัพเรือภาคที่ 3 จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ล่ามกรมข่าวทหารเรือ เพื่อสัมภาษณ์สอบถามข้อมูลทางโทรศัพท์ ทราบว่า เจ้าตัวมีความตั้งใจจะพายเรือยางไปหาภรรยาซึ่งเป็นชาวอินเดียที่เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ซึ่งได้แต่งงานกันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ต้องห่างกันเพราะ COVID-19 

 

โดยเจ้าตัวได้เดินทางด้วยเครื่องบินจากกรุงไซง่อน ประเทศเวียดนาม มาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ต้องการต่อเครื่องไปประเทศอินเดีย แต่ไม่มีวีซ่าเข้าประเทศอินเดีย จึงได้ตัดสินใจนั่งรถโดยสารจากกรุงเทพมหานครมาที่จังหวัดภูเก็ต ก่อนที่จะจัดหาเรือยางเป่าลม และพายออกมาจากฝั่งจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่ประมาณวันที่ 5 มีนาคม 2565 ที่หมายชายฝั่งประเทศอินเดีย ระยะทางประมาณ 2,000 กม. โดยในวันนี้ที่เรือประมงมาพบนั้น ได้ลอยเรือในทะเลมา 18 คืน
จนท. จึงได้นำบุคคลดังกล่าว พร้อมเรือยางมายังอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการต่อไป

 

 

หนุ่มเวียดนามพายเรือยาง 2,000 กม. จากภูเก็ตไปหาเมียที่อินเดีย

หนุ่มเวียดนามพายเรือยาง 2,000 กม. จากภูเก็ตไปหาเมียที่อินเดีย

หนุ่มเวียดนามพายเรือยาง 2,000 กม. จากภูเก็ตไปหาเมียที่อินเดีย
 

ทัพเรือภาคที่ 3 มีความห่วงใยทุกชีวิตในทะเลอันดามัน และขอขอบคุณชาวประมงที่แจ้งข่าวให้เราได้เข้าช่วยเหลือชายผู้นี้ ผู้ซึ่งมีหัวใจอันยิ่งใหญ่ ที่พร้อมจะเสี่ยงชีวิตออกเดินทางพายเรือยางลำเล็ก ๆ ข้ามมหาสมุทรอินเดียอันกว้างใหญ่ไพศาลและอันตรายยิ่งนัก เพื่อที่จะไปพบหน้าภรรยาที่ตนรัก

 

ภายหลังที่เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ได้มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ชื่นชม การทำงานของกองทัพเรือที่สามารถช่วยชีวิตชายคนนี้ได้ รวมถึงยอมรับใจของผู้ชายคนนี้ บ้างก็บอกว่า เรื่องราวนี้เหมือนภาพยนต์ และบางส่วนบอกถ้าใจรักอินเดียก็แค่ปากซอย

 

หนุ่มเวียดนามพายเรือยาง 2,000 กม. จากภูเก็ตไปหาเมียที่อินเดีย

หนุ่มเวียดนามพายเรือยาง 2,000 กม. จากภูเก็ตไปหาเมียที่อินเดีย

หนุ่มเวียดนามพายเรือยาง 2,000 กม. จากภูเก็ตไปหาเมียที่อินเดีย

หนุ่มเวียดนามพายเรือยาง 2,000 กม. จากภูเก็ตไปหาเมียที่อินเดีย

logoline