กระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงวันนี้ว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ "ซาโปริชเชีย" ในเมืองเอเนรโฮดาร์และพื้นที่ใกล้เคียงอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.แล้ว และยังปฏิบัติงานตามปกติ แต่การโจมตีที่เกิดขึ้นใกล้กับโรงไฟฟ้าเป็นความพยายามของรัฐบาลชาตินิยมของยูเครนที่จะก่อการยั่วยุอย่างร้ายแรง เพื่อกล่าวหาว่ารัสเซียทำให้เกิดการรั่วไหลของกัมมันตรังสี
ก่อนหน้านี้ฝ่ายยูเครน กล่าวหาว่า กองทัพรัสเซียยิงปืนใหญ่ถล่มโรงไฟฟ้าช่วงเช้าตรู่วันนี้ ทำให้เกิดไฟไหม้ที่อาคารฝึกอบรมสูง 5 ชั้น แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต และทหารรัสเซียเข้ายึดโรงไฟฟ้าไว้ได้แล้ว
แต่โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า ในช่วงเวลา 2.00 น.ของวันที่ 4 เม.ย.ตามเวลาท้องถิ่นระหว่างการลาดตระเวนพื้นที่ติดกับโรงไฟฟ้า หน่วยรักษาดินแดนเคลื่อนที่ก็ถูกโจมตีจากกลุ่มผู้ก่อวินาศกรรมชาวยูเครน และเพื่อยั่วยุให้เกิดการยิงตอบโต้ไปยังตึกฝึกอบรม จึงมีการระดมยิงปืนใส่ทหารรัสเซียจากหน้าต่างของตึกที่ตั้งอยู่นอกโรงไฟฟ้า และเมื่อหน่วยลาดตระเวนรัสเซียยิงโต้กลับไป กลุ่มผู้ก่อเหตุก็หนีออกจากตึกก่อนจุดไฟเผา
ขณะที่สื่อรายงานว่า ยังไม่อาจหาข้อพิสูจน์ยืนยันการชี้แจงของแต่ละฝ่ายได้