ภาพถ่ายดาวเทียมของ Maxar ชี้ให้เห็นว่าขบวนรถศึกของรัสเซียจอดเรียงรายเป็นระยะทางรวมกว่า 65 กิโลเมตรจากเมืองทางเหนืออย่างพรีบิสค์ (Prybisk) มุ่งไปทางใต้ใกล้กับสนามบินแอนโนนอฟ ท่ามกลางคำถามว่ารัสเซียวางกลศึกระยะสั้นและระยะยาวไว้อย่างไรทั้งที่ช่วงแรกของสงครามขบวนศึกรุกคืบต่อเนื่อง แต่สัปดาห์นี้ดูเหมือนหยุดโดยสิ้นเชิง
ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่าขบวนรถศึกเหล่านี้น่าจะรออาหารและเสบียงคลังยุทโธปกรณ์ ขาดแคลนเชื้อเพลิง โลจิสติกส์ไม่ดีและต้องฝ่าฟันกับสภาพอากาศรวมถึงมีโคลนเป็นขวากหนาม
มองผิวเผินนี่น่าจะเป็นเป้าหมายที่ไม่ยากสำหรับยูเครนในการโจมตีทั้งการจู่โจมภาคพื้นดินและใช้จรวดแบบประทับบ่าต่อสู้รถถังซึ่งชาติตะวันตกจัดหามาให้
กลยุทธ์ที่ได้ผลมาแล้วก็คือการโจมตีหัวขบวนรถศึกที่ทำให้เกิดการกีดขวางทางจราจร และปิดถนนได้ด้วย
ขบวนรถที่จอดนิ่งและอยู่ในที่โล่งน่าจะเป็นเป้าโจมตีทางอากาศได้ง่ายด้วย แต่การโจมตีของยูเครนอาจทำได้จำกัดเพราะรัสเซียอาจมีระบบต่อต้านทางอากาศหรือมีกำลังพลทางบกคอยโจมตีอยู่
แม้ยูเครนจะทำลายรถหัวขบวนได้ แต่อาจจะเสี่ยงเกินไปหากส่งเครื่องบินมีคนขับเข้าไปในพื้นที่ซึ่งอาจจะถูกตอบโต้ ยูเครนจึงหันไปเน้นการป้องกันเมืองสำคัญๆที่กำลังจะตกอยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย
กองทัพสหรัฐเตือนว่าอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าการชงักงันของขบวนรถศึกเป็นความอ่อนเปลี้ยของรัสเซียเพราะรัสเซียมีแสนยานุภาพทางทหารที่อาจจะปรับกระบวนยุทธ์ ชดเชยและเอาชนะปัญหาที่ประสบอยู่ได้ และเป็นไปได้ที่บรรดาแม่ทัพอาจจะหยุดเพื่อประเมินสถานการณ์และตั้งหลักใหม่ซึ่งทำให้มีเวลารับเสบียงคลังได้มากขึ้นด้วยก่อนที่จะรุกคืบเข้าสู่เมืองหลวงของยูเครนอีกครั้ง ในทางตรงกันข้าม การทำศึกด้านใต้ดูเหมือนรัสเซียจะประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ
สหรัฐจึงไม่อยากปักใจเชื่อว่ารัสเซียขาดแคลนเสบียงคลังเพราะรัสเซียกรำศึกแบบเดียวกันนี้มานานแล้วจึงยากจะฟันธงว่านี่เป็นความล้มเหลวของแผนการรบของรัสเซียหรือไม่