svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ลุงกำนัน" ห่วง "ลุงตู่" เสียงไม่พอรับอภิปรายฯ รอบหน้า แนะเร่งสร้างผลงาน

03 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ลุงกำนัน" ห่วง "ลุงตู่" หวั่นเสียงไม่พอรับอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบหน้า ชี้ปัญหาใหญ่คือการเมืองภายในพรรคร่วมรัฐบาลเอง แนะเร่งสร้างผลงานผลงานช่วงปิดสมัยประชุม

     วันนี้ (3 มี.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “ Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ) เผยแพร่รายการ “คุยกับลุง” EP 20  ระบุ ปิดประชุมสภาไปแล้ว ผมยังคงให้กำลังใจนายก ในการแก้ปัญหาเรื่องการเมือง ทั้งภายในพรรครัฐบาล ระหว่างพรรค นอกพรรค ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าหนักใจ
 

 

     นายสุเทพ กล่าวว่า ช่วงนี้รัฐสภา ปิดสมัยประชุมแล้ว แต่คณะกรรมาธิการฯ ก็จะต้องทำงานอยู่ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง / ว่าด้วยการเลือกตั้ง เห็นพูดกันว่า เขาจะรีบทำให้เสร็จภายให้ทันในเดือนพฤษภาคม เสร็จทันจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เสร็จทันหรือไม่ ก็จะมีผลต่อสถานการณ์ในทางการเมืองในเดือน พ.ค. มากที่เดียว ระหว่างนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ก็จะมีเวลามากขึ้น ไม่ต้องกังวลกับเวลาที่จะต้องไปอยู่ใช้ในสภาฯ ก็จะมีได้มีสมาธิมีกำลังที่จะทำงานแก้ปัญหาที่กำลังรุมเร้า 
 

 

     นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ปัญหาที่กำลังรุมเร้าประเทศไทยในเวลานี้ มีเรื่องใหญ่ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือเรื่องโควิด เรื่องที่ 2 คือเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องโควิดนั้น เชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทย ข้าราชการไทย คนไทยร่วมมือกันจะฝ่าฟันวิกฤตเรื่องโควิดไปได้ เพราะรัฐบาลมีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาติดต่อกันมา 2 - 3 ปีแล้ว ประชาชนคนก็ร่วมมือกันดี ถ้าไปดูตัวเลขเปรียบเทียบประเทศไทย มีประชากร 66 ล้านคนเศษ วันนี้มีตัวเลขคนติดโควิดประมาณ 2 หมื่นกว่าคนต่อวันถ้าไปเปรียบเทียบกับฮ่องกง ที่มีประชากรประมาณ 7 ล้านกว่าคน แต่มีคนติดโควิดเพิ่มขึ้นวันละ 3 หมื่นกว่าคน ก็ถือว่าสถานการณ์ของประเทศไทยไม่น่าจะหนักหนาสาหัสจนกินไป ตนมั่นใจว่าปัญหานี้ข้าราชการไทย ประชาชนชาวไทย ยังร่วมมือแก้ไขปัญหานี้ให้ลุล่วงไปได้ 
 

 

"ลุงกำนัน" ห่วง "ลุงตู่" เสียงไม่พอรับอภิปรายฯ รอบหน้า แนะเร่งสร้างผลงาน

     นายสุเทพ กล่าวอีกว่า แต่ปัญหาใหญ่คือเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการลงทุนของประเทศ ปัญหาเรื่องการท่องเที่ยว ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจเห็นนายกฯ ประกาศเป็นนโยบายว่า จะให้วีซ่าระยะยาว สำหรับนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในระยะนี้ ตนยังคิดเลยไปว่า ยังมีคนที่มีเงิน มีทอง ถ้ารัฐบาลให้สิ่งจูงใจ บอกว่าใครที่เอาเงินมาลงทุน ในเศรษฐกิจ BCG เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว โดยเฉพาะทางด้านเกษตร การผลิตอาหารปลอดภัย รัฐบาลให้สัญชาติไทยเลย อย่างนี้น่าจะเป็นแรงจูงใจ ให้คนเอาเงินออกมาลงทุนสร้างงานมากขึ้น ก็จะเป็นผลดีต่อผู้ใช้แรงงานในประเทศไทยต่อไปในวันข้างหน้า 

 

     นายสุเทพ กล่าวต่อว่า นอกจากปัญหาเรื่องโควิดและเรื่องเศรษฐกิจที่เป็นปัญหาภายในแล้ว เรายังมีปัญหาภายนอกที่มา กระทบต่อประเทศไทยจะมากจะน้อย เรายังไม่รู้ คือเรื่องการเกิดสงครามในยุโรป ระหว่างรัสเซียกับยูเครน เมื่อเกิดสงครามในยุโรป ก็ต้องกระทบต่อเศรษฐกิจของยุโรป และแน่นอน ต้องมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ไม่รู้ว่าจะมากจะน้อยแค่ไหนแต่ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องคิดจะต้องหาทางแก้ไข ตนเห็นนายกฯ นัดประชุมเป็นพิเศษเพื่อตั้งรับกับปัญหานี้ คิดว่ารัฐบาลไม่ประมาท 

 

 

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย

     พอพูดถึงเรื่องสงคราม ระหว่างรัสเซียกับยูเครน เห็นมีผู้สันทัดกรณี จำนวนมากออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อต่าง ๆ มีหลายช่อง หลายที่ มีการวิเคราะห์เหตุการณ์  ต้องขอชื่นชม นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ ที่ได้แสดงจุดยืนของประเทศไทย อย่างสง่างาม ไม่เอียงเข้าข้างใดข้างหนึ่ง เป็นกลาง ดีกับทุกประเทศ  

 

     นายกฯ ก็แสดงออกอย่างพอดี งดงามตามวิถีทาง ทางการทูตที่เรายึดถือเป็นมรดกกันมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 ที่ ทำให้เรารักษาเอกราชของประเทศไว้ได้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็แสดงออกมาว่าเราเป็นประเทศเล็กต้องสำรวม เราอยากให้มีสันติภาพที่จะเป็นประโยชน์ต่อชาวโลกและชาวไทย และนี่เป็นการแสดงจุดยืนและท่าทีในเวทีการเมืองระหว่างประเทศได้อย่างสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย

 

     นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ปัญหาใหญ่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในขณะนี้ คือเรื่องการเมือง การเมืองภายในพรรครัฐบาลเอง การเมืองระหว่างพรรค การเมืองจากนอกพรรค ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่น่าหนักใจ เดือน พ.ค.นี้ จะอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ เอากันอย่างจริงจัง จะล้มรัฐบาลให้ได้ คนก็จิตใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะไปรอดหรือไม่รอดจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ การลงมติไม่ไว้วางใจ จริง ๆ แล้วไม่ห่วงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะมีจุดอ่อนอะไรให้โจมตีมากมาย

 

     แต่ที่เป็นห่วงคือ เรื่องจำนวน ส.ส. ใครบ้างที่ยังคงยืนหยัดที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ อย่าง ร.อ.ธรรมนัส ก็ออกมาประกาศว่า 28 คน ที่ออกจากพรรคพลังประชารัฐไปนั้น จะไม่ยกมือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จะยกมือสวน กล่าวได้ว่านี่เป็น ส.ส. อีกกลุ่มที่อยู่ฝ่ายที่จะจ้องล้มรัฐบาล จำนวนมือของ ส.ส. ที่จะยกมือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่มีการลงคะแนนเสียงไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจ ตอนนี้ยังสับสนอยู่ บางฝ่ายคำนวณว่า จะมี ส.ส. สนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ประมาณ 260 คน  ร.อ.ธรรมนัส ก็บอกว่า จริงรึเปล่า อันนี้ก็ไม่รู้  อยู่ที่ทีมงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องใช้วิชาเลขคณิต  นับจำนวนความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของ ส.ส รายวันเลยทีเดียว

 

     “ผมเห็นใจ พล.อ.ประยุทธ์ สถานการณ์ที่รุมเร้าอย่างนี้  ใครเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ก็น่ากลุ้มใจ แต่ว่าต้องสู้ เป็นเรื่องที่ต้องพาประเทศ ไปให้ได้ การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในช่วงนี้ ไม่เป็นผลดี ต่อประเทศไทย อย่าง คติโบราณที่บอกว่า ไม่ควรเปลี่ยนม้ากลางศึก ก็เพราะเรามีศึกเยอะแยะที่ต้องฟันฝ่า ผมก็เอาใจช่วย เหมือนพี่น้องประชาชนคนไทยที่ต้องเอาใจช่วย พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงปิดสมัยประชุมนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องทุ่มเท เอามาตรการต่าง ๆ โครงการต่าง ๆ ออกมาช่วยประชาชน ประเทศชาติ ให้เห็นประจักษ์

 

     เพราะฉะนั้น พอถึงจังหวะที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามที่เขาประกาศ พล.อ.ประยุทธ์ ก็อาจจะพลิกโอกาส ใช้โอกาสนี้ อธิบายว่า รัฐบาลได้ทำสิ่งดี ๆ ให้กับประเทศและประชาชนไว้อย่างไรบ้าง ผมเชื่อว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ใช้โอกาสอย่างนี้ ประชาชนจะเข้าใจและเอาใจช่วย พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนที่ผมเอาใจช่วย พล.อ.ประยุทธ์ ในขณะนี้  สู้ ๆ นะครับท่านนายกฯ หนักหน่อย แต่ก็ต้องสู้ และต้องสู้ให้ชนะนะครับท่านนายกฯ  เอาใจช่วยครับ“ นายสุเทพ กล่าว
 

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม

logoline