หลังสมาคมผู้ค้าผู้ผลิตและส่งออกไข่ไก่ประกาศขึ้นราคาแนะนำไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้นโดยเฉพาะอาหารสัตว์ ที่ปัจจุบันยังถูกซ้ำเติมจากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน จนกระทบต่อวัตถุดิบที่กำลังจะขาดตลาด ซึ่งจะทำให้ราคาอาหารสัตว์สูงขึ้น
โดยขยับราคาอยู่ที่ฟองละ 3.20 บาท มีผลวันที่ 1 มี.ค. 65 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาไข่ไก่ปรับขึ้น ฟองละ 30 สตางค์ หรือแผงละ 9 บาท ซึ่งเป็นการปรับขึ้นจากเดิมที่กระทรวงพาณิชย์ขอความร่วมมือให้ตรึงราคาไว้ที่ 2.90 บาท/ฟอง
ส่วนราคาขายไข่ไก่หน้าแผงจะบวกเพิ่มจากราคาเดิมตามระดับต้นทุนที่รับมา เช่น หากต้นทุน ไข่ไก่เบอร์ 3 ราคาหน้าฟาร์มฟองละ 2.70 บาท ราคาขายปลีกจะบวกขึ้นไปเป็น ฟองละ 3.10 บาท หรือเฉลี่ยปรับขึ้นฟองละ 40 สตางค์
ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจแผงขายไข่ไก่ในตลาดสดบอกว่าจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายตามต้นทุนที่สูงขึ้น ส่วนร้านขายอาหารบอกว่าต้องปรับราคาเพิ่มขึ้น 5 บาท เพราะต้นทุนวัตถุดิบอาหารเพิ่มขึ้นทุกอย่าง และลูกค้าก็น้อยลง ส่วนบางร้านยังไม่ปรับราคาอาหารขึ้น
แต่จะใช้วิธีเฉลี่ยต้นทุน แทนการขึ้นราคาเพื่อไม่ให้กระทบกับลูกค้าเพราะตอนนี้ทุกคนก็ลำบากกันหมด อยากขอให้ภาครัฐลงมาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังมากกว่านี้
ด้านกระทรวงพาณิชย์ระบุว่าจากข้อมูลของสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ที่แจ้งว่าต้นทุนการเลี้ยงไก่ไข่ปรับตัวสูงขึ้น จากราคาวัถดุดิบอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นนั้น ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน เชิญสมาคมฯ มาหารือร่วมอีกครั้ง เพื่อหาทางออกร่วมกันให้เกิดผลดีที่สุด ทั้งฝ่ายเกษตรกร ฟาร์มเลี้ยงไก่ ผู้รวบรวมไข่ รวมทั้งผู้บริโภค ว่าต้องทำอย่างไรให้เกิดความสมดุลที่สุดเท่าที่จะทำได้
ด้านผู้ผลิตอาหารสัตว์ แสดงความเป็นกังวลว่า วัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์กำลังจะขาดตลาด จากสถานการณ์สู้รบในยูเครน ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งออกมาตรการแก้ไขด้วยการนำเข้าอาหารสัตว์จากต่างประเทศเพิ่มเติม นำเข้าข้าวโพดเป็นการชั่วคราว ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้ากากถั่วเหลือง และรัฐบาลต้องยกเลิกมาตรการบังคับด้วยการตรึงราคา ที่ทำให้ผู้ผลิตต้องแบกรับภาวะขาดทุน