คณะผู้แทนยูเครนเริ่มต้นการเจรจากับฝ่ายรัสเซียที่ชายแดนเบลารุสแล้วในวันนี้ หลังจากรัสเซียเริ่มใช้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. สร้างความสูญเสียเลือดเนื้อแก่ยูเครน
รัฐบาลยูเครน เปิดเผยว่า คณะผู้แทนชุดนี้นำทีมโดย โอเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหม, มิคาลิโอ โปโดเลียก ที่ปรึกษาทำเนียบประธานาธิบดี และ มิโคลา โตชิตสกี รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ และหัวข้อหลักของการเจรจา คือ ข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลบังคับใช้ทันที และการถอนทหารรัสเซียออกจากดินแดนยูเครน
และวลาดิมีร์ เมดินสกี ผู้แทนเจรจาของรัสเซีย เปิดเผยวันนี้ว่า รัสเซียมีความตั้งใจที่จะบรรลุข้อตกลงเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ
ก่อนหน้านั้นประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เปิดเผยว่า เขาไม่ตั้งความหวังว่าการเจรจาครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ แต่สาเหตุที่เขาตกลงจะเจรจากับรัสเซีย เพราะต้องการแสดงให้เห็นว่าเขาได้พยายามทำทุกวิถีทางที่จะหยุดสงครามครั้งนี้ แม้ว่าความเป็นไปได้ที่การเจรจาจะประสบความสำเร็จจะมีเพียงน้อยนิด แต่อย่างน้อยเขาก็พยายามแล้ว
นอกจากนี้เขาเรียกร้องให้ทหารรัสเซียวางอาวุธ และขอให้สหภาพยุโรปอนุมัติรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกทันที
ผู้นำยูเครนประกาศเมื่อวานยินดีเข้าร่วมเจรจาอย่างไม่มีเงื่อนไขกับรัสเซีย หลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน มีคำสั่งให้กองกำลังนิวเคลียร์เตรียมพร้อมในระดับสถานะพร้อมรบ
และทางการยูเครนแจ้งเมื่อวานด้วยว่า มีพลเรือนเสียชีวิต 352 ราย ซึ่งรวมถึงเด็ก 13 คน และมีผู้บาดเจ็บอีก 1,684 คน ซึ่งเป็นเด็ก 116 คนนับจากรัสเซียบุกยูเครน
ขณะที่มาตรการเคอร์ฟิวที่บังคับใช้ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงนาน 2 วันช่วงสุดสัปดาห์สิ้นสุดลงแล้วในวันนี้ ทำให้ซูเปอร์มาร์เก็ตเปิดตามปกติ และประชาชนหลายคนออกจากบ้านเรือนเพื่อใช้ชีวิตตามปกติ หลังจากต้องหลบอยู่ในสถานที่หลบภัยใต้ดินและสถานีรถไฟใต้ดินนาน 2 วันช่วงที่รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีอย่างหนัก
แต่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย รายงานด้วยว่า ทหารสามารถยึดเมืองได้อีก 2 เมืองในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน และพื้นที่รอบโรงไฟฟ้านิวเคลยร์ ซาโปริซยา แต่ยูเครนปฏิเสธว่า โรงไฟฟ้าแห่งนี้ไม่ได้ตกอยู่ในมือรัสเซีย