ผลสำรวจความคิดเห็นที่เผยแพร่เมื่อสุดสัปดาห์ ระบุว่าชาวยูเครน 91% ให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี หลังจากรัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. โดยคะแนนนิยมพุ่งขึ้น 3 เท่า จากเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว และมีเพียง 6% ไม่สนับสนุน และอีก 3% ไม่แน่ใจ
ผลสำรวจนี้เป็นการสอบถามประชาชน 2,000 คนในยูเครน แต่ไม่รวมในไครเมียที่ถูกผนวกไปอยู่ในรัสเซีย และสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ และสาธารณรัฐลูฮันสก์ในแยกตัวเป็นเอกราช
ผู้ตอบคำถามมากถึง 70% เชื่อว่ากองทัพยูเครนจะชนะรัสเซียได้ แต่ 16% ไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ ขณะที่ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียต่อยูเครนเข้าสู่วันที่ 5 แล้วในวันนี้ แต่เซเลนสกียังคงปักหลักอยู่ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงด้วยความเด็ดเดี่ยว แม้เมื่อไม่กี่วันก่อนบอกว่าตัวเองตกเป็นเป้าหมายเบอร์ 1 สำหรับทีมสังหารจากรัสเซีย เขายังปฏิเสธข้อเสนอของสหรัฐฯ ที่จะช่วยอพยพเขาและครอบครัวออกจากยูเครน โดยบอกว่า "ผมต้องการกระสุน ไม่ใช่การหนี" ที่ผ่านมาเขาย้ำว่ายูเครนจะปักหลักต่อสู้ และปฏิเสธข่าวที่ว่าเขาบอกให้กองทัพยอมแพ้ เช่น
"ผม
อยู่นี่ เราไม่วางอาวุธ เราจะปกป้องประเทศของเรา เพราะอาวุธของเราคือความจริง"
"เมื่อคุณโจมตีเรา คุณจะได้เห็นใบหน้าเรา ไม่ใช่แผ่นหลัง"
ผู้นำยูเครน วัย 44 ปี เคยเป็นนักแสดงตลก ซึ่งไร้ประสบการณ์ทางการเมือง และชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเมื่อปี 2562 ด้วยคำมั่นสัญญาจะปราบปรามคอร์รัปชัน ใกล้เคียงกับละครที่เขาเล่นในซีรีส์เรื่อง "ผู้รับใช้ของประชาชน" (Servant of the People) เขาสวมบทเป็นครูที่ประณามการคอร์รัปชันในระบบการเมืองอย่างเผ็ดร้อน และเป็นจุดที่ทำให้ชีวิตพลักผันได้กลายเป็นประธานาธิบดี
แต่คะแนนนิยมของเขาเสื่อมถอยลงอย่างมาก เพราะประชาชนไม่เชื่อว่าเขาจะบริหารประเทศได้ดี จนกระทั่งการรุกรานจากรัสเซียเป็นวิกฤตที่สร้างโอกาส ให้เขาเรียกความศรัทธาจากประชาชนกลับคืนมาได้ คลิปถ้อยแถลงของเขาแต่ละครั้งที่โพสต์ในโซเชียลมีเดีย สามารถสร้างแรงบันดาลใจและสร้างขวัญกำลังใจ ให้กับชาวยูเครนกล้าต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศจากมหาอำนาจรัสเซีย