ด่วนที่สุด! ปลัดสธ. สั่งสสจ.-รพ.ทั่วประเทศ รับมือโควิด หลังยกระดับเตือนภัย
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ออกหนังสือ ‘ด่วนที่สุด’ ถึงสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลทั่วประเทศ เตรียมการรับมือดูแลรักษาผู้ติดโควิด หลังประกาศยกระดับเตือนภัยโควิดเป็นระดับ 4
22 กุมภาพันธ์ 2565 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง การเตรียมการสำหรับการดูแลรักษาผู้ป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด, ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไป มีเนื้อหาดังนี้...
สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลกที่มีการระบาดอย่างรวดเร็ว สำหรับในประเทศไทย พบว่า ขณะนี้ตรวจพบการติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว
เพื่อให้การดูแลผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 ขอให้ดำเนินการ ดังนี้
- เตรียมความพร้อมด้านทรัพยากร เตียง บุคลากรทางการแพทย์ และระบบการดูแลรักษาแบบ Home Isolation (HI) หรือ Community Isolation (CI) รวมทั้งการรับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล (Admit) ในกรณีที่มีอาการมากและรุนแรง
- ประชาสัมพันธ์หมายเลขโทรศัพท์ของจังหวัด และโรงพยาบาลทุกแห่ง เพื่อให้ผู้ป่วยมีความมั่นใจที่จะเข้าถึงระบบบริการ เมื่อติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
- เร่งรัดการฉีดวัคซีนโควิด19 เข็มกระตุ้น หรือบูสเตอร์โดส ในประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะในผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด ตลอดจนลดความรุนแรงจากการติดโควิด
- สื่อสารให้ประชาชนป้องกันตนเองและครอบครัวด้วยมาตรการ Universal Prevention และ VUCA และสร้างการรับรู้การดูแลรักษาผู้ป่วยจากการติดโควิด เพื่อให้สามารถดูแลตนเองและครอบครัวได้
ทั้งนี้ สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงสูงขึ้น ทำให้กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศยกระดับเตือนภัยโควิด จากระดับ 3 เป็นระดับ 4 โดยมีมาตรการดังนี้
- งดเข้าสถานที่เสี่ยง
- งดทานอาหารร่วมกัน ดื่มสุราในร้าน
- เลี่ยงไปซื้อของที่มีคนจำนวนมาก เช่น ตลาด ห้าง
- เลี่ยงใกล้ชิดผู้อื่นนอกบ้าน
- งดร่วมกิจกรรม กลุ่มตามเกณฑ์ต่างๆ
- มาตรการทำงานที่บ้านให้ได้ร้อยละ 50-80
- ชะลอการเดินทางข้ามจังหวัดหากจำเป็นใช้รถยนต์ส่วนตัว
- เลี่ยงไปต่างประเทศ
- หากเข้าประเทศต้องปรับตัวในสถานที่กักกัน