22 กุมภาพันธ์ 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึง การยกระดับเตือนภัยโควิด-19 ระดับ 4 ว่า กระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้ยกระดับเตือนภัยเป็นระดับ 4 เพราะการเตือนภัยโควิดระดับ 4 มีมานานแล้ว ก่อนหน้านี้ได้ประกาศจากระดับ 5 ลงมาเหลือระดับ 4 ถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติตน โดยให้มีการเว้นระยะห่าง ทำงานที่บ้าน และลดการสังสรรค์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค
“ จะไม่มีการ ล็อกดาวน์ แน่นอน ตอนนี้ขอให้ใจเย็น ๆ เพราะหลายประเทศมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นกว่าประเทศไทย แต่ก็ยังผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ดังนั้นในส่วนของประเทศไทยเองก็คงต้องหาทางที่ดีที่สุด และต้องเดินทางสายกลาง ”
นายอนุทัน กล่าวอีกว่า ปัจจุบันโควิดสายพันธุ์โอมิครอน แม้จะติง่าย แต่ก็หายเร็ว และความรุนแรงของโรคก็ไม่ได้รุนแรงเหมือนสายพันธุ์อื่น
สำหรับ การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ วันที่ 23 ก.พ. 2565 นี้ จะมีการหารือถึงมาตรการเดินทางเข้าประเทศ จากเดิมที่ให้ผู้เดินทางเข้ามาต้องให้ตรวจ RT-PCR ในวันที่ห้า ซึ่งจะต้องพิจารณาว่ามีความจำเป็นหรือไม่ ล่าสุดกำลังหารือ
“เบื้องต้นมีแนวโน้มลดการตรวจ RT-PCR ในวันที่ห้า เพราะดูแล้วไม่ได้เกิดประโยชน์ โดยการควบคุมโรคยังดีอยู่ เพราะการติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในประเทศ ไม่ได้มาจากต่างประเทศ ”
ส่วนกรณีที่มีภาพข่าวผู้ติดเชื้อโควิด-19 นอนรอการช่วยเหลือบริเวณริมถนน นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีเหตุการณ์เช่นนั้น แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเมื่อเห็นข่าวก็ได้ประสานกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อตรวจสอบข้อมูลแล้ว และได้รับการยืนยันว่าจำนวนเตียงและโรงพยาบาลทั่วประเทศมีความพร้อมในการรองรับผู้ป่วย
ส่วนกรณีการปรับการรักษาโควิดฟรี ที่เริ่มในวันที่ 1 มี.ค.นี้ นายอนุมิน ได้ยืนยันว่า ไม่ได้ยกเลิกการรักษาผู้ป่วยโควิด แต่รักษาตามสมมติฐานของโรค เช่น ผู้ป่วยโควิดส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ และไม่มีอาการรุนแรง จัดอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยสีเขียวให้รักษาตัวอยู่ที่บ้าน เพื่อให้เตียงหรือบุคลากรทางการแพทย์ว่างมากที่สุด
“ ขณะที่ผู้ป่วยที่มีอาการสีเหลืองและสีแดง ก็ยังได้รับการรักษาพยาบาลตามการเจ็บป่วยฉุกเฉิน (UCEP) โดยต้องบริหารจัดการระบบสาธารณสุขให้ดีที่สุด ”
ทั้งนี้ สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงสูงขึ้น ทำให้กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศยกระดับเตือนภัยโควิด จากระดับ 3 เป็นระดับ 4 โดยมีมาตรการดังนี้