นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น และนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียร่วมลงนามในข้อตกลงการเข้าถึงซึ่งกันและกัน ( Reciprocal Access Agreement) ผ่านการประชุมทางออนไลน์ในวันนี้ โดยข้อตกลงจะเปิดทางให้มีการประจำการของทหารญี่ปุ่นและออสเตรเลียได้รวดเร็วขึ้น และผ่อนคลายข้อบังคับเรื่องการขนส่งอาวุธและกำลังบำรุงสำหรับการซ้อมรบร่วมและปฏิบัติภารกิจบรรเทาภัยพิบัติ
เดิมนายกรัฐมนตรีคิชิดะหวังว่าจะเยือนออสเตรเลียในเดือนนี้เพื่อลงนามข้อตกลง แต่ต้องยกเลิกการเดินทาง และปรับรูปแบบเป็นพิธีลงนามแบบเวอร์ชวลเพื่อให้ความสำคัญกับการควบคุมระบาดของโควิด-19
ผู้นำญี่ปุ่น กล่าวว่า ข้อตกลงฉบับประวัติศาสตร์นี้จะทำให้ความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างญี่ปุ่นและออสเตรเลียขยับขึ้นสู่ระดับใหม่ และผู้นำออสเตรเลีย บอกว่า ข้อตกลงฉบับนี้เป็นบันทึกหน้าใหม่ของความร่วมมือในสถานการณ์ที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงรวดเร็วของโลก โดยไม่ได้ระบุชื่อจีนโดยตรง
แต่กระทรวงต่างประเทศจีน เตือนตั้งแต่เมื่อวันพุธว่า ข้อตกลงทวิภาคีดังกล่าวไม่ควรพุ่งเป้าทำลายผลประโยชน์ต่อประเทศที่สาม และควรส่งเสริมความไว้วางใจ สันติภาพ และเสถียรภาพในภูมิภาค
ออสเตรเลียเป็นชาติที่สองที่ญี่ปุ่นลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางทหารลักษณะนี้นอกเหนือจากสหรัฐฯ และญี่ปุ่นยังเตรียมทำข้อตกลงแบบเดียวกันกับอังกฤษ หลังได้เริ่มเจรจาแล้วเมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว รวมถึงจะทำข้อตกลงกับฝรั่งเศสด้วย
ญี่ปุ่นและออสเตรเลียตกลงจะเริ่มการเจรจาข้อตกลง RAA ในปี 2557 และบรรลุข้อตกลงกว้างๆเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว แต่ระบบโทษประหารของญี่ปุ่นเป็นอุปสรรคสำคัญ โดยออสเตรเลีย ซึ่งยกเลิกโทษประหารชีวิตในประเทศ เรียกร้องให้ทหารออสเตรเลียได้รับยกเว้นจากโทษประหารหากกระทำผิดคดีอาญาในญี่ปุ่น แต่ต่อมาสองฝ่ายตกลงกันได้ โดยจะเปิดทางให้สามารถดำเนินคดีอาญากับทหารของอีกชาติ ที่เข้ามาก่อความผิดในประเทศขณะอยู่นอกเวลาปฏิบัติภารกิจได้
การกระชับความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายมีขึ้่นในขณะที่จีนเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจต่อออสเตรเลียมากขึ้น หลังออสเตรเลียกดดันให้จีนตรวจสอบหาต้นตอของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่พบในเมืองอู่ฮั่นเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ทั้งญี่ปุ่นและออสเตรเลียอยู่ในกลุ่มควอด (Quad) หรือ ภาคี 4 ประเทศ ที่มีสหรัฐฯและอินเดียร่วมด้วย โดยกลุ่มนี้มีความกังวลร่วมกันในหลายประเด็นเกี่ยวกับจีน ซึ่งรวมถึงกรณีจีนเพิ่มแรงกดดันต่อไต้หวัน ความขัดแย้งทางการค้าและเสรีภาพการเดินทะเลในภูมิภาค