ญี่ปุ่นยืนยันวันนี้ว่า มีผู้ติดเชื้อโอมิครอนภายในชุมชนรายแรกที่จังหวัดโอซากา โดยผู้ว่าการจังหวัดโอซากา รายงานว่า ครอบครัวหนึ่งที่มีสมาชิก 3 คนติดเชื้อโอมิครอน แม้ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ และยังไม่อาจระบุได้ว่าติดเชื้อจากที่ใด นอกจากนี้ชายอีกคนติดโอมิครอน แต่มีประวัติไปต่างประเทศเมื่อเร็วๆนี้ และอยู่ในโรงแรมที่เป็นสถานที่กักตัว
ขณะที่ชิเงยูกิ โกโตะ รัฐมนตรีสาธารณสุขของญี่ปุ่น กล่าวว่า เบื้องต้นนี้ยังไม่เชื่อว่า โอมิครอนแพร่กระจายทั่วประเทศแล้ว แต่รัฐบาลจะยังคงบังคับใช้มาตรการควบคุมพรมแดนต่อไปเพื่อซื้อเวลาในการเตรียมพร้อมรับมือกับการระบาดของโอมิครอน
เมื่อวันอังคารนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ประกาศจะขยายมาตการควบคุมพรมแดนอย่างเข้มงวดที่บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.ต่อไปจนถึงต้นเดือน ม.ค.ปีหน้า หลังจากเดิมมีกำหนดสิ้นสุดในปลายเดือนนี้ โดยมาตรการนี้ห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศ และพลเมืองชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักถาวรในญี่ปุ่นจะต้องกักตัวในสถานที่ของรัฐหลังเดินทางกลับเข้าประเทศ
ส่วนสถานการณ์ในแอฟริกาใต้ที่เป็นจุดระบาดหลักของสายพันธุ์โอมิครอน พบว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ลดลงเหลือ 15,424 คนเมื่อวันอังคารจากเคยพุ่งสูงถึงเกือบ 27,000 คนเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.โดยเฉพาะในจังหวัดกัวเต็งที่มีประชากรมากที่สุด 16 ล้านคนและเป็นจุดระบาดหลักของโอมิครอน รวมถึงเมืองโยฮันเนสเบิร์ก และกรุงพริทอเรีย มีตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงก่อนหน้านี้อีก
มาร์ทา นูเนส นักวิจัยอาวุโสด้านวัคซีนและโรคติดเชื้อของมหาวิทยาลัยวิตวอเทอร์สแรนด์ในแอฟริกาใต้ บอกว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลงทั่วประเทศ รวมถึงในจังหวัดกัวเต็ง ที่เป็นศูนย์กลางการระบาดรอบล่าสุด บ่งชี้ว่า สถานการณ์ระบาดในประเทศได้ผ่านจุดพีคหรือจุดสูงสุดไปแล้ว