เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ปักหลักค้างคืน (13 ธ.ค.64) หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อฟังคำตอบจากมติครม.(14 ธ.ค.64) เรื่องการประเมินสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ หรือ SEA แบบมีส่วนร่วมของโครงการ รวมถึงเรียกร้องให้ยุติการดำเนินคดีกับชาวบ้าน 37 คนที่ถูกตำรวจจับกุม เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ปักหลักตั้งหมู่บ้าน "ลูกทะเล" บนสะพานชมัยมรุเชษฐ
ดร.เสารัจ รัตนคำฟู นักวิจัย TDRI แสดงความแปลกใจที่ ครม.อนุมัติโครงการเขตเศรษฐกิจเฉพาะกิจ เพื่อกระจายความเจริญสู่ท้องถิ่นอย่างยั่งยื่น แต่โครงการใหญ่ๆ ที่ผ่านมา มักวางแผนจากส่วนกลาง ไม่ยึดโยงความต้องการประชาชน จึงไม่ตอบโจทย์ความต้องการของท้องถิ่นและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างแท้จริง ในทางกลับกันกลับถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างความมั่งคั่ง และเอื้อประโยชน์ให้คนบางกลุ่ม
นับจากการเริ่มโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน เมื่อปี 2557 - 2562 แนวคิดให้ อ.จะนะ จ.สงขลา เป็นเมืองต้นแบบที่ 4 “เมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” เหมือนฉายหน้งซ้ำ และไม่ยึดโยงความต้องการชาวบ้าน
รายงานเรื่อง “กรอบแนวทางการบริหาร และการพัฒนาอำเภอจะนะ ในฐานะเมืองต้นแบบที่ 4 เมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” นักวิจัย TDRI ยังไม่พบหล้กฐานเชิงประจักษ์ที่จะทำให้เกิด การบริหาร และการพัฒนาในภาพรวมที่เป็นรูปธรรม เชื่อมโยงการสร้างสันติสุข ในพื้นที่ ด้วยแนวทางการสร้างงาน สร้างอาชีพ ยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้กับประชาชนและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และประเทศชาติโดยรวมต่อไปได้อย่างไร?
ในรายกงานเรื่อง “กรอบแนวทางการบริหารและการพัฒนาอำเภอจะนะฯ” บทที่ 4 ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม มีเนื้อหาเพียงหน้าเดียว ระบุเพียงว่า จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจส่วนรวม
1.สร้างอาชีพ สร้างงาน 1 แสนตำแหน่ง
2.เงินหมุนเวียนการจ้างงานมากกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท/ปี
3.แก้ความยากจนและความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้อย่างยังยืน
ขณะที่รัฐจะเสียงรายได้จากภาษี เช่นยกเว้นภาษีนิติบุคคล 8 ปีไม่จำกัดวงเงิน ลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ร้อยละ 50 เพิ่มอีก 5 ปี ยกเว้นอากรนำเข้าวัตถุดิบ 10 ปี
การดำเนินการส่วนนี้เป็นความร่วมมือของบริษัทเอกชน 3 ราย ซึ่งได้ซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าวตั้งแต่ปี 2540 ประมาณ 10,800 ไร่ แบ่งเป็น ที่ดินของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตผู้บริหาร บมจ.อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย หรือ TPI 7,000 กว่าไร่ และกลุ่ม บมจ.ปตท. โดย บมจ.ไออาร์พีซี มีที่ดิน 3,000 กว่าไร่ โดยเอกชนทั้ง 3 รายจะร่วมกันพัฒนานิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ขึ้น
นักลงทุนชาวจีนที่มาร่วมทุนกับกลุ่มทีพีไอกรุ๊ป เพื่อจัดตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนระบบขนส่งทางราง มูลค่า 4 แสนล้านบาท ยังคงพร้อมเดินหน้าโครงการลงทุน
ดังนั้น ทางกลุ่มทีพีไอกรุ๊ป จึงเร่งให้ ศอ.บต. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่แก้ปัญหาดังกล่าว
กลุ่มคัดค้านโครงการ “เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น” คัดค้านให้ยกเลิกโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต เพราะโครงการถูกสร้างขึ้นจากกระบวนการเท็จตั้งแต่ต้น และกำลังกลายเป็นโครงการที่สร้างความขัดแย้งในชุมชนที่อาจจะหนักขึ้นในอนาคต ทั้งการยุยงส่งเสริมให้คนในชุมชนขัดแย้งกัน การจัดฉากสร้างเวทีรับฟังความคิดเห็นหวังเพียงลายเซ็นและรายชื่อผู้สนับสนุน การร่วมกับกลุ่มทุนพยายามรวบรัดขั้นตอนกระบวนการดำเนินงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง