นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่น เป็นประธานในพิธีตรวจพลสวนสนามของกองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดิน (JGSDF) เมื่อวันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน และ กล่าวว่าจะทบทวนนโยบายด้านความมั่นคงและต่างประเทศ เนื่องจากความก้าวหน้าที่รวดเร็วด้านการพัฒนาเทคโนโลยีขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ และการขยายแสนยานุภาพทางทหารของจีนในพื้นที่พิพาททางทะเล ซึ่งทุกหนทางล้วนมีความเป็นไปได้ รวมทั้งแนวคิดที่จะให้กองกำลังป้องกันตนเอง (SDF) มีศักยภาพในการโจมตีฐานที่มั่นของฝ่ายตรงข้าม แม้จะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพราะมีบทบัญญัติที่เข้มงวดต่อ SDF ในการใช้กำลังภายใต้รัฐธรรมนูญมาตรา 9 ที่ห้าม "พฤติการณ์แห่งสงคราม"
พิธีตรวจพลสวนสนามประจำปีที่เป็นการแสดงแสนยานุภาพของกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ที่ฐานทัพอาซากะ ทางเหนือของกรุงโตเกียว ในปีนี้ถูกลดขนาดลง โดยตัดช่วงการสวนสนามออกไปและไม่เปิดให้สาธารณชนเข้าชม เนื่องจากอยู่ในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19
เมื่อวันที่ 26 พศจิกายน รัฐบาลของ นายคิชิดะ ได้อนุมัติแผนเพิ่มงบประมาณทางทหาร 6,750 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการป้องกันทางอากาศและทางทะเล ที่จะช่วยทำให้ดำเนินการได้รวดเร็วกว่าที่วางแผนไว้ 3 เดือน รวมถึงอัปเกรดเครื่องยิงขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศที่ติดตั้งบนเกาะต่าง ๆ บริเวณทะเลจีนตะวันออก และขีปนาวุธ Patriot PAC-3 ที่ติดตั้งในแนวรบสุดท้ายของการป้องกันหัวรบจากเกาหลีเหนือ