มีผู้เสียชีวิต 4 รายและบาดเจ็บอีก 19 คน จากพายุลมแรงจัดที่พัดถล่มเมืองอิสตันบูล เมืองที่ใหญ่ที่สุดของตุรกี และพื้นที่โดยรอบเมื่อวันจันทร์ (29 พฤศจิกายน)
สำนักงานผู้ว่าการเมืองอิสตันบูลรายงานว่าผู้เสียชีวิต 1 เป็นชาวต่างชาติ แต่ไม่มีการระบุสัญชาติ ขณะที่ผู้บาดเจ็บอีก 3 คน อยู่ในภาวะวิกฤต
คณะกรรมการอุตุนิยมวิทยาของตุรกี หรือ MGM ระบุว่า พายุลมแรงที่พัดเข้าใส่เมืองในครั้งนี้ มีความเร็วลมมากถึง 130 กม. ต่อชั่วโมง
แรงลม ได้พัดพาหลังคาปลิวว่อน รวมทั้งได้ฉีกป้ายโฆษณาต่าง ๆ ขณะเดียวกัน ก็พัดพาน้ำทะเลขึ้นมาท่วมถนน และพาคลื่นแรงซัดเข้าหาชายฝั่งของช่องแคบบอสฟอรัส
สภาพอากาศเลวร้ายทำให้รถบรรทุกอย่างน้อย 2 คันพลิกคว่ำ กีดขวางการจราจรบนทางหลวงที่พลุกพล่านในอิสตันบูล ภาพวิดีโอแสดงให้เห็นคนขับคนหนึ่งติดอยู่ภายในรถ ขณะที่คนที่อยู่แถว ๆ นั้นรีบเข้าไปช่วยเหลือ
ลมได้พัดอาคารหลายหลังจนพังถล่มลงมา และยกแผ่นพื้นคอนกรีตออกจากหลังคาและผนัง
หอนาฬิกาในเขตคาตัลกา ก็พังทลายลงเนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุดังกล่าว
ผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตจากเศษซากของหลังคาที่ถูกลมพัด ตกลงมาทับเธอและลูก ซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นวินาทีชีวิตของชายคนหนึ่งในเมืองอีซมีร์ เมื่อแผ่นคอนกรีตจากอาคารที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างถูกพายุพัดและตกลงมาบนรถยนต์ที่เขายืนพิงอยู่ แต่ชายคนนี้สามารถกระโดดหลบได้ทันเวลา ทำให้ไม่ได้รับอันตราย
สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของตุรกีรายงานว่า ลมแรงจัด ทำให้ตารางการบินต้องมีอันสะดุดหยุดลง ในขณะที่ช่องแคบบอสฟอรัส ก็ต้องปิดให้บริการสำหรับการขนส่งทางเรือในเวลาต่อมา