ประธานาธิบดีรามาโฟซา กล่าวเมื่อวันอาทิตย์แสดงความผิดหวังอย่างยิ่งต่อมาตรการที่หลายประเทศระงับเที่ยวบินจากแอฟริกาใต้และเพื่อนบ้านอีกหลายประเทศเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน เข้าสู่ประเทศ
เขาบอกว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนว่ามาตรการห้ามการเดินทางจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ แต่การจำกัดการเดินทางจะยิ่งสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศที่มีการแพร่ระบาด และทำลายความสามารถของประเทศที่จะรับมือและฟื้นตัวจากการระบาด
นอกจากนี้เขาบอกว่า มาตรการห้ามการเดินทางไม่เป็นธรรมและเป็นการเลือกปฏิบัติ พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศต่างๆยกเลิกมาตรการดังกล่าวโดยด่วน ก่อนที่เศรษฐกิจของแอฟริกาใต้และชาติเพื่อนบ้านได้รับความเสียหายมากกว่านี้
ขณะที่มีรายงานว่า การประกาศระงับเที่ยวบินจากแอฟริกาใต้และอีก 6-7 ประเทศทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา โดยหลายประเทศ เช่น อังกฤษ สหรัฐฯ หลายชาติในยุโรป และอีกหลายชาติในเอเชียแปซิฟิก กระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของแอฟริกาใต้ทันที และคาดว่า จะสูญรายได้สัปดาห์ละ 10 ล้านดอลลาร์หากเที่ยวบินยังถูกระงับจากตลาดท่องเที่ยวสำคัญในต่างประเทศ
แอฟริกาใต้เป็นประเทศที่มีการระบาดของโควิด-19 หนักที่สุดในทวีปแอฟริกา โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 2.9 ล้านคน และผู้เสียชีวิตสะสม 89,797 ราย ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ย 1,600 คนต่อวันในช่วงเวลา 7 วันเมื่อเทียบกับ 500 คนต่อวันเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้น โดยเชื่อว่า ไวรัสโอไมครอนอาจเป็นปัจจัยทำให้การแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น